กล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือการปลูกข่าวนาปรัง ของ ครม. ที่ว่า หากใครยอมเสี่ยงที่จะปลูกในขณะที่ปริมาณน้ำน้อยต้องรับผิดชอบตัวเอง ว่า อะไรที่เราเตือนไปแล้ว หากจะขอเสี่ยงแล้วเราต้องไปรับความเสียงทั้งหมดคงไม่ได้ เพราะเราได้หาทางเลือกให้เขาไว้แล้ว อาจจะตรงใจหรือไม่ตรงใจ แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น ซึ่งแนวคิดดังกล่าวเป็นบรรทัดฐานในเวลานี้ หากสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลงก็แก้ปัญหาอีกทาง แต่นี่คือการแก้ปัญหาเบื้องต้น ที่ผ่านมาอาจจะไม่ได้คิดเช่นนี้ คิดแต่ให้เงินช่วยเหลือไปหรือหาวิธีอย่างอื่น ซึ่งทำให้เกิดปัญหากับประเทศมากและวันนี้ก็ยังต้องหาวิธีการแก้ปัญหาอยู่ ส่วนนั้นก็ว่ากันไป วันนี้เราเริ่มใหม่ จะดีหรือไม่ ใช่หรือไม่ ขอให้เราได้ทำก่อน ทุกอย่างมีความเสี่ยง ซึ่งเรียกว่าการบริหารความเสี่ยง หากเกิดอะไรขึ้นข้างหน้าก็ต้องปรับแก้วิธีการไปตลอดเวลา ไม่ใช่สั่งวันนี้แล้วทำไปถึงชาติหน้ามันไม่ใช่ เราต้องปรับตัวตลอดเวลารองรับความเสี่ยง ซึ่งมีทุกอย่าง ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ จิตวิทยา เพราะโลกเปลี่ยนแปลง คนมากขึ้น ความคิดก็หลากหลาย และประชาธิปไตยก็ต้องยอมรับฟังความคิดเห็นคนเยอะๆ
แต่วันนี้ที่เดือดร้อนมากคือข้าว และ ยางพารา ขณะที่ อ้อย ยังไม่มีปัญหามากเพราะมาตรการดูแลแข็งแรง ต่อไปต้องปรับว่าผลิตภัณฑ์ที่มีมากจะทำอย่างไร หากขายเป็นวัตถุดิบราคาก็จะตก เพราะมีการแข่งขัน อีกประเด็นหนึ่งคือต้นทนราคาสินค้าของเรามันสูงเพราะค่าแรงบ้านเราสูง ต้นทุนจึงต่างกัน ต้องเห็นใจผู้ส่งออกที่มีปัญหาตรงนี้ ดังนั้นเราต้องเร่งพัฒนาพันธ์ข่าวให้มีคุณภาพที่ดีกว่าและแตกต่างกว่าเขา วันนี้ได้สั่งเรื่องการทำพันธุ์ข้าวเพื่อสุขภาพ เช่น ข้าวสำหรับผู้เจ็บป่วยเบาหวาน เพราะไทยมีข้าวร้อยกว่าพันธุ์ นี่คือสิ่งที่รัฐบาลทำ
ทั้งนี้ตนได้สั่งการไปที่ประชุมครม.ให้เป็นมติร่วมกันทำ และการที่ตนได้พูดในรายการ คืนความสุขให้คนในชาติ ทุกวันศุกร์
ข้าราชการเขาก็ฟังว่าตนพูดอะไร เห็นว่าเขาฟังเพราะเห็นจากผลการปฏิบัติงานที่มีผลงานปรากฏออกมา แต่เขายังไม่มีโอกาสพูดมากนัก ซึ่งก็ได้เร่งรัดให้เขาอธิบายว่าทำอะไรไปแล้วบ้าง ที่พูดมาทำไปแล้วทั้งนั้น ทั้งช่วงเริ่มต้น กำลังวางแผน และการวางรากฐานในอนาคตปัญหาเร่งด่วนเกิดทุกวัน ทั้งอาชญากรรม ยาเสพติด ภัยธรรมชาติ การจัดระเบียบชายหาด ร้านค้า ซึ่งตนเชื่อว่าคนไทยเป็นคนที่มีความสามารถ วันนี้ต้องทำให้คนไทยไม่แบ่งแยก ต่างคนต่างหารือถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลประชาชนโดยใช้หลักธรรมาภิบาล ซึ่งวันนี้รัฐบาลทำในทุกมิติแต่คงไม่ทันใจพวกท่าน ตนรู้ เวลานี้เป็นรัฐบาลมาหนึ่งเดือนแต่ยังสู้ไหว มองประเทศชาติในวันหน้าทำเพื่ออนาคต วันหน้าจะได้สบายใจ จะได้รู้ว่าลูกหลานและพวกเราจะอยู่กันอย่างไร ตอนนี้ยังอายุน้อยๆ อายุมากๆคงต้องพักผ่อนกันแล้ว ตนก็อายุเยอะแล้วแต่ยังไหวอยู่
นายกฯ กล่าวว่า ก็พยายาม และขอสัญญาว่าจะทำอย่างเต็มที่ แต่การจะเป็นผลออกมาอย่างไรอยู่ที่คนไทยทุกคนจะร่วมมือกันไหม และตนก็ไปสั่งไม่ได้ แต่ต้องทำให้ประชาชนพอใจ ซึ่งที่ผ่านมาอาจจะเกิดปัญหาทางการเมือง ปัญหาความไม่เข้าใจนำไปสู่ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ซึ่งต้องหาทางปฏิรูปกันมาว่าจะทำอย่างไร ตนจะไปตัดสินไม่ได้ เรื่องของศาล กระบวนการยุติธรรมไปทำมาให้เกิดความเป็นธรรม ตนจึงบอกว่าอย่าไปเร่งรัดศาลเขามาก และตนก็ไม่เคยไปเร่งรัดศาล ต้องให้เขาทำตามหน้าที่ อาจจะช้าหน่อย เพราะต้องมีหลักซานชัดเจน ถ้าตัดสินไปไม่รับก็ตีกันอีก ที่ผ่านมาเป็นอย่างนี้ แล้วจะให้กลับไปสู่ตรงนี้อีกทำไม แต่ใครผิดก็ต้องว่าไปตามผิด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เวลาตนพูดกับสื่อเสียงดังความดันก็ขึ้น ความจริงคำพูดบางอย่างก็ไม่ใช่เรื่อง "งั้นวันหลังผมก็คงไม่ขอพูดเล่นกับสื่อแล้วกัน ดีที่สุดก็ไม่ต้องพูดกับท่านเลยให้โฆษกฯ พูดแทนดีมั้ย อย่างในการบันทึกเทปรายงานคืนความสุขให้คนในชาติตนก็ได้บันทึกเทปไว้แล้ว และในวันศุกร์ที่ 17 ต.ค.นี้รายการขึ้นมาเร็วขึ้นเนื่องจากมีการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาและในสัปดาห์ต่อไปก็จะกลับมาใช้เวลาเดิม แต่พยายามจะใช้เวลาในรายการให้สั้นลง แต่ปัญหามีมากตนก็ต้องอธิบายแต่บางสื่อก็หาดีแต่พูดไม่ทำงานก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร หรือจะให้ไม่ต้องพูดเลย สื่อไม่ต้องมาถามและเราไม่ต้องเจอกันสัก 1เดือนดีหรือไม่