บิ๊กตู่ยันปฏิรูปประเทศยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง

"บิ๊กตู่"ยันปฏิรูปประเทศยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ห่วงปี58น้ำแล้ง ย้ำแก้ไฟใต้ต้องใช้เวลา

นายกรัฐมนตรียึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงบริหารประเทศ ยันช่วยชาวนาไม่ต้องการคะแนนนิยม เชื่อเหตุเผาโรงเรียนในพื้นที่ชายแดนใต้เพื่อลดความน่าเชื่อถือจากต่างชาติ

วันที่ 13 ตุลาคม พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับมูลนิธิปิดทองหลังพระ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และกระทรวงที่เกี่ยวข้องว่า การหารือในวันนี้เป็นการขับเคลื่อนประเทศตามโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและ 3 ห่วง 2 เงื่อนไข ยึดหลักความรู้คู่คุณธรรม โดยต้องบริหารจัดการร่วมกันซึ่งจะทิ้งความขัดแย้งไว้เบื้องหลังและไม่สร้างปัญหาให้กับอนาคต

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรียืนยันว่าทุก3เดือนจะมีผลงานออกมาให้ประชาชนได้เห็นเป็นรูปธรรม เพื่อเป็นของขวัญและให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างยั่งยืน ซึ่งรัฐบาลก็พร้อมที่จะดูแลประชาชนแต่ต้องให้เวลาในการบริการประเทศเพื่อให้ก้าวพ้นปัญหาได้

ส่วนปัญหาที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดขณะนี้คือปัญหาการจัดการน้ำ ที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ
 
โดยจะต้องเตรียมพร้อมเพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตอยู่ได้ตามสภาพแวดล้อม เพราะทั่วโลกอย่างเช่นสหรัฐอเมริกาและประเทศจีน ต่างมีปัญหาการขาดแคลนน้ำเช่นเดียวกัน สำหรับมาตรการช่วยเหลือชาวนาผู้มีรายได้น้อย ไร่ละ1,000บาทแต่ไม่เกิน15ไร่ เป็นไปตามที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไปแลัว โดยจะเริ่มจ่ายเงินให้ชาวนาวันที่ 20 ตุลาคมนี้ เป็นวันแรก อย่างแน่นอนและไม่ได้ต้องการคะแนนนิยม แต่ต้องการช่วยตามความเดือดร้อนซึ่งเป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้ นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่า ขออย่าเอาเรื่องทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวมารวมกับการบริหารจัดการในปัจจุบันแต่หากรัฐบาลนี้มีการทุจริตจะมีการลงโทษทันที

อย่างไรก็ตามปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้เป็นปัญหาที่มีความซับซ้อนจะต้องมีการปรับเปลี่ยนและพัฒนา

เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้เกิดในพื้นที่ และเชื่อว่าบุคคลที่ก่อเหตุเป็นคนไม่มีศาสนาเพราะทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี ซึ่งสถิติการเกิดเหตุการความไม่สงบลดลงตามลำดับ แต่ไม่ได้หมายความว่าประชาชนจะมีความสุขมากขึ้นเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นคือความสูญเสีย ซึ่งต้องใช้เวลา

ส่วนความคืบหน้าการเผาโรงเรียน 6 แห่งใน 3 จังหวัดชายแดนใต้

ได้มอบหมายให้ผู้บัญชาการทหารบกได้ติดตามความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อว่า การก่อเหตุเป็นการสร้างความหวาดกลัวให้แก่ประชาชนในพื้นที่และลดความเชื่อถือของต่างชาติ และขอสื่อมวลชนนำเสนอข่าวที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศโดยไม่ส่งผลให้ประเทศเกิดความเสียหาย