พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกันระหว่างคณะรัฐมนตรี และ คสช.ว่า ตลอด 4 เดือน ได้ทำงานแบบคู่ขนานนำไปสู่การขับเคลื่อนซึ่งเป็นไปตามโรดแมป โดย 5 กลุ่มงานของ คสช.ทำงานสอดคล้องกับรัฐบาล ซึ่งเกิดความชัดเจนทั้งส่วนการบริหารราชการแผ่นดินแบบปกติ การแก้ปัญหาเชิงรุกของ คสช. ที่ช่วยเสริมด้านความมั่นคง ทั้งนี้ส่วนของรัฐบาลจะเร่งเดินหน้าแก้ไขปัญหาในทุกมิติ โดยจะติดตามตรวจสอบผลงานทุก 3 เดือน
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ยังไม่ประกาศยกเลิกกฎอัยการศึก จนกว่าจะเดินหน้าปฏิรูปได้สำเร็จ จึงจะมีการผ่อนคลายมาตรการตามลำดับ พร้อมเรียกร้องให้กลุ่มผู้เห็นต่างหยุดวิจารณ์ หรือโจมตีรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ 250 คน และอย่ากดดันการทำหน้าที่โดยขอให้ดูที่การทำงาน
ครม.ตั้ง 'ดิสทัต' เลขากฤษฎีกา
ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี มีมติแต่งตั้ง นายดิสทัต โหตระกิตย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขณะที่ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ที่มีพื้นที่ทำกินน้อย จำนวน 1,000 บาทต่อไร่ ภายในวันที่ 20 ต.ค. และขณะนี้ ก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ว่า นายกรัฐมนตรี ยังมีความกังวล จึงมอบให้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ไปหารือถึงมาตรการให้มีความชัดเจน โดยต้องการให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ออกมาชี้แจง ขั้นตอนการจ่ายเงินว่าจะถึงมือเกษตรกรได้อย่างไร เพื่อให้เกิดความมั่นใจมากขึ้นว่าชาวนาจะได้รับเงินจริง
คสช. ลุยปรองดอง สู่ปฏิรูป หนุน รบ. ปกป้องสถาบัน
พ.อ.(พิเศษ) วินธัย สุวารี ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ได้กล่าวถึงการประชุมร่วมของคณะรัฐมนตรีกับ คสช. ว่า ในวันนี้ ทาง คสช. ได้ชี้แจงถึงการทำงานในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ทั้ง 7 ด้าน ให้กับทางคณะรัฐมนตรี ได้รับทราบ ซึ่งหลังจากที่มีรัฐบาลแล้ว ทาง คสช. จะมีหน้าที่ในด้านความมั่นคง คือ การรักษาความสงบเรียบร้อย และการรักษาบรรยากาศการปรองดอง เพื่อนำไปสู่การปฏิรูป พร้อมกับจะเป็นผู้ให้การสนับสนุน ให้ข้อเสนอแนะกับทางรัฐบาล
ทั้งนี้ พ.อ.(พิเศษ) วินธัย ยังได้กล่าวถึงสิ่งที่ คสช. ยังคงกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ คือ การปกป้อง และเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ การรักษาความมั่นคงของรัฐ การลดความเหลื่อมล้ำของสังคม การสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐ