“ป.ป.ช.”คาด “ปรีชา” แจงเงินฝากกองทัพในบัญชีทรัพย์สิน เพื่อความบริสุทธิ์ใจ
วันที่ 7 ต.ค.ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) นายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึง กระแสวิพากษ์วิจารณ์กรณี พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา รอง ผบ.ทบ. ยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีเข้ารับตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีปัญหาในเรื่องของตัวเลขอาจมีการแจ้งบัญชีผิดพลาด ว่า ขณะนี้ทางสำนักงาน ป.ป.ช. ยังไม่ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแต่เท่าที่ทราบข่าวนั้น อาจจะเกิดความผิดพลาดโดยพล.อ.ปรีชา อาจมีการแจงบัญชีเงินฝากของกองทัพ ซึ่ง พล.อ.ปรีชา เป็นผู้ถือบัญชีอยู่รวมมาด้วย เพื่อความโปร่งใส ทั้งนี้ความเป็นจริงในการยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินไม่จำเป็นต้องยื่นส่วนดังกล่าวเข้ามา แต่เพื่อความบริสุทธิ์สามารถทำได้ อย่างไรก็ดีหลังจากนี้ทางสำนักงานป.ป.ช.จะมีการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของทาง สมาชิก สนช. อย่างละเอียดอีกครั้งหากพบความผิดปกติจะดำเนินการทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบบัญชีแสดงทรัพย์สินของพล.อ.ปรีชา ที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. พบว่ามีการแจ้งยอดเงินฝากทั้งหมด 42,051,468 บาท ขณะที่มีการแจ้งบัญชีเงินฝากทั้งหมด10 บัญชี โดยรวมเป็นเงิน 89,418,876 บาท โดยเป็นบัญชีเงินฝากธนาคารพาณิชย์ 5 บัญชี ซึ่งมีชื่อ พล.อ.ปรีชา เป็นเจ้าของบัญชี โดยรวมเงินทั้ง 5 บัญชีมูลค่า 42,051,468 บาทเท่ากับจำนวนเงินฝากที่มีการแจ้งต่อป.ป.ช. และยังมีบัญชีเงินฝากสหกรณ์ออมทรัพย์กองทัพภาคที่ 3 อีก 5 บัญชี ซึ่งมีชื่อนางผ่องพรรณ จันทร์โอชา ภรรยา พล.อ.ปรีชา เป็นเจ้าของบัญชี โดยรวมเงินทั้ง 5 บัญชีมูลค่า 46,995,296 บาท แต่ในการแจ้งต่อ ป.ป.ช.กลับแจ้งว่า นางผ่องพรรณ ไม่มีทรัพย์สินที่เป็นเงินฝาก
ทั้งนี้ พล.อ.ปรีชา ได้แนบเอกสารชี้แจงถึงประธานป.ป.ช.เรื่องขอแจ้งบัญชีเงินฝากขอหน่วยงานที่ตนมีอำนาจลงนามสั่งจ่าย 2 รายการ คือ บัญชีสถานภาพเงินราชการกองทัพภาคที่ 3 และรายการบัญชีสถานภาพเงินนอกงบประมาณและงบพิเศษของกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 3 โดยชี้แจงว่า “ ตามที่ข้าพเจ้าได้รับตำแหน่งเป็น สนช.และต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.นั้น ข้าพเจ้าขอแจ้งบัญชีเงินฝากของหน่วยงานที่ข้าพเจ้ามีอำนาจลงนามสั่งจ่าย เพื่อใช้ในกิจการของราชการแต่ไม่ใช่บัญชีเงินฝากของข้าพเจ้า รายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย ”