เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ที่โรงแรมเซนทรา ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวในงานปาฐกถา 12 ปี กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ดีเอสไอ โดยยอมรับว่าขณะนี้ดีเอสไอไม่ได้รับความเชื่อถือจากสังคมแล้ว เห็นได้จากหลังการยึดอำนาจ คำถามแรกคือเมื่อไหร่จะย้ายอธิบดีดีเอสไอ จึงตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดดีเอสไอจึงมีปัญหาในสายตาบุคคลภายนอก หลังจากนี้ต้องปรับเปลี่ยนเพื่อพิสูจน์ตัวเอง ตนในฐานะ รมว. ยุติธรรม ต้องเข้ามาแก้ปัญหาให้ดีเอสไอได้รับการยอมรับอีกครั้ง ประเทศไทยมักมีปัญหาเรื่องการออกกฎหมายเพื่อเอื้อประโยชน์ตัวเอง ทำให้ทุจริตได้ง่าย ดีเอสไอก็ต้องถามตัวเองว่า ใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ตัวเองหรือไม่ต้องทบทวนตัวเองว่าเหตุใดจึงมีกระแสข่าวให้ปรับโครงสร้าง หรือกระทั่งยุบดีเอสไอไปเลย
รมว.ยุติธรรม กล่าวต่อว่า "ผมทราบว่าเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้น อย่าคิดว่าผมไม่รู้ เรื่องนี้ทำให้รู้สึกเจ็บปวดมาก เหมือนกับว่าผมไม่สามารถควบคุมพวกคุณได้ หากพบตัวคนทำผิดจะสอบสวนด้วยตัวเอง ไม่ว่าคนทำจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ใช่ลูกผู้ชาย พวกคุณกำลังจะฟ้องกับสังคมว่าดีเอสไอถูกแทรกแซง กำลังฆ่าดีเอสไอด้วยตัวคุณเอง ย้ำว่าผมไม่พอใจ และเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น"
ทั้งนี้มีรายงานว่า เหตุการณ์ที่ พล.อ.ไพบูลย์ พูดกลางงานบรรยายดังกล่าวคือ กรณีที่รถยนต์ส่วนตัวของ ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รอง ผบ.สำนักปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ถูกผู้ไม่หวังดีนำน้ำมันเบรกมาราดเสียหายทั้งคัน ระหว่างจอดไว้ที่อาคารจอดรถศูนย์ราชการบี ซึ่งเรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการเร่งติดตามตรวจสอบกล้องวงจรปิดในอาคารจอดรถ เพื่อหาตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษ สำหรับมูลเหตุคาดว่ามาจากปัญหาความไม่พอใจเรื่องการสับเปลี่ยนตำแหน่ง ภายในดีเอสไอหลายตำแหน่ง ตั้งแต่ระดับ ผอ.- เจ้าหน้าที่คดีพิเศษ
ขณะที่ พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ อธิบดีดีเอสไอ ยอมรับว่า การเข้ามาดำรงตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา เน้นการเข้าไปปรับปรุงระบบการทำงานภายใน ทำความเข้าใจกับประชาชนให้เกิดความชัดเจน เพื่อให้ดีเอสไอเป็นองค์กรพิเศษจริงเช่นเดียวกับเอฟบีไอ จึงดูเหมือนดีเอสไอปิดกรม ดังนั้นต้องทำความเข้าใจว่าตนทำงานสืบสวน คดียุติจึงสามารถเปิดเผยได้ ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าการทำงานดีเอสไอไม่สะท้อนความเป็นคดีพิเศษ เน้นทำคดีเล็กน้อย อย่างไรก็ตามนอกจากการปรับระบบองค์กรแล้ว มีคดีที่ตนอนุมัติเป็นคดีพิเศษในช่วงเป็นอธิบดีดีเอสไอหนึ่งคดี คือ คดีค้ามนุษย์แรงงานประมงไทยที่อินโดนีเซีย ซึ่งเดินทางกลับประเทศแล้วจำนวน 6 คน เมื่อถามถึงกระแสไม่ยอมรับการได้รับแต่งตั้งเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรมจากผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงหลายคน โดยเฉพาะกรณีของ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พล.อ.ไพบูลย์ ได้ปฏิเสธยังไม่ขอตอบคำถามนี้ แต่คงไม่มีปัญหาเพราะทุกคนก็เป็นพี่น้องกัน