คปส.หวั่นสิทธิเสรีถูกจับเป็นตัวประกัน เรียกร้องประชาชนให้กำลังใจให้นักข่าว

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 31 มีนาคม 2549 23:19 น.

คณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ ชี้สิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนถูกคุกคามอย่างหนัก ระบุม็อบปิดล้อมอาคารเนชั่นเป็นการปิดกั้นสื่อ วอนประชาชนให้กำลังใจนักข่าวเพื่อไขข้อเท็จจริงสู่สังคม

วันนี้(31 มี.ค.)ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย คณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ (คปส.) ได้เปิดแถลงข่าวถึงสถานการณ์สิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนในขณะนี้ โดยมี รศ.ดร.อุบลรัตน์ ศิริยุวศักดิ์ น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ และนายต่อพงษ์ เสลานนท์

รศ.ดร.อุบลรัตน์ ในฐานะประธาน คปส. ระบุว่า ในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา สิทธิและเสรีภาพของสื่อถูกคุกคามอย่างหนักที่สุด สถานการณ์ที่มีผู้ชุมนุมปิดล้อมสำนักงานของบริษัทเครือเนชั่น ไม่ให้เข้า ออกได้ง่ายเมื่อช่วงสายวานนี้ เปรียบเหมือนการกีดกันสิทธิเสรีภาพของสื่อในปัจจุบันได้อย่างดี ในขณะที่สถานการณ์ที่เชียงใหม่ในเวทีปราศรัยของนักการเมืองฝ่ายค้าน รวมไปถึงเหตุร้ายที่เกิดกับหัวหน้าข่าวภาคเหนือในเครือเนชั่น ชุดเหตุการณ์เหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าความอดทนอดกลั้นของฝ่ายรัฐเริ่มลดน้อยลงทุกที

พูดได้ว่าสิทธิและเสรีภาพของสื่อในขณะนี้ได้ถูกจับเป็นตัวประกัน หายใจรวยริน ถ้าหากไม่ช่วยกันประคับประคอง สังคมไทยคงจะเอาตัวไม่รอด

ประธาน คปส.กล่าวอีกว่า ขอเตือนสติว่าสิทธิเสรีภาพของสังคมจะอยู่ได้ก็ต่อเมื่อความแตกต่างทางความคิดเห็นยังดำรงอยู่ และต้องไม่ทำลายความคิดความเชื่อที่แตกต่างกัน ต่างฝ่ายต่างต้องอดทนอดกลั้น เพื่อให้สิทธิเสรีภาพเบ่งบานอย่างอิสระ ในขณะเดียวกันก็จะต้องดำรงสติไม่ให้ขยายตัวไปสู่การปิดล้อมปิดกั้นเสรีภาพ เพราะเราคงไม่สามารถยอมรับการปิดล้อมให้เป็นกติกาของสังคมได้

ประธาน คปส.ยังเรียกร้องให้ ประชาชนต่อสู้ร่วมกันเพื่อรักษาสิทธิเสริภาพของสื่อมวลชนและการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน โดยเฉพาะสื่อมวลชน ไม่ว่าจะเป็นในฐานะปัจเจกหรือกลุ่มสังกัดเพื่อให้ทำหน้าที่สื่อสารข้อเท็จจริงออกมาสู่สังคมเพื่อเยียวยาสังคมที่วิกฤต เปรียบเหมือนหมอที่ทำหน้าที่รักษาคนไข้

นอกจากนี้ เธอยังเรียกร้องให้ผู้ที่รับผิดชอบดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้ประชาชนรู้สึกอุ่นใจและรู้สึกปลอดภัยทุกครั้งที่ไปชุมนุมทางการเมือง อีกทั้งยังเรียกร้องให้ยุติการกระทำที่จะนำไปสู่ความรุนแรง

ด้าน น.ส.สุภิญญา ในฐานะเลขาธิการ คปส. กล่าวว่า ทิศทางของเสรีภาพประชาชนซึ่งประมวลจากเหตุการณ์ต่างๆ ไม่ว่าการชุมนุมที่หน้าโรงพิมพ์สำนักพิมพ์แนวหน้า การโจมตีนักวิชาการ ถึงการปิดล้อมสำนักงานเนชั่นและการออกคำสั่งห้ามวารสารฟ้าเดียวกันจำหน่าย อาจจะนำไปสู่สถานการณ์ที่เผชิญหน้าและรุนแรงมากยิ่งขึ้น ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่ไม่ปกติ หากคลี่คลายไปในทิศทางที่ไม่ดี หลังจากวันที่ 2 เม.ย.อาจจะเกิดเหตุการณ์ที่เป็นอันตรายต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชนได้ ซึ่งท้ายที่สุด พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องรับผิดชอบ

อย่างไรก็ตาม เลขาธิการ คปส. ระบุว่า ต้องเคารพในสิทธิและเสรีภาพของฝ่ายต่างๆ ในการแสดงออกทางการเมือง โดยเฉพาะการชุมนุม แต่สำหรับการชุมนุมในบางพื้นที่ในกรณีโรงพิมพ์ โรงเรียน โรงพยาบาลควรต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ยิ่งอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติอย่างในปัจจุบัน ข้อเสนอในการปิดโรงพิมพ์อย่างในกรณีคมชัดลึก แม้ว่าจะไม่ได้ออกมาจากนักการเมืองที่กุมอำนาจรัฐอยู่ แต่ก็ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าเป็นการละเมิดเสรีภาพของสื่อ เพราะแม้แต่ในทางกฎหมายก็ไม่สามารถกระทำได้

เลขาธิการ คปส. กล่าวอีกว่า นอกจากจะเรียกร้องให้ช่วยกันให้กำลังใจสื่อมวลชนแล้ว ยังต้องให้กำลังใจกับนักข่าวที่ทำงานอยู่ในสนาม ซึ่งอาจจะใจเสียกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก ในขณะที่ตัวเองก็ต้องทำงานอยู่ในสนาม พบเจอทั้งแหล่งข่าวจากทุกฝ่าย อาจจะเจอแรงกดดัน ทางโรงพิมพ์หรือต้นสังกัดเองก็ควรจะต้องดูแลนักข่าวอย่างเต็มที่