คสช.ปัดห้ามจ้อการเมือง แค่ขอร้อง เมินคำร้องเลิกอัยการศึก ยันไม่ส่งผลกระทบคนดีๆ

คสช.ปัดห้ามจ้อการเมือง แค่ขอร้อง เมินคำร้องเลิกอัยการศึก ยันไม่ส่งผลกระทบคนดีๆ

เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก และทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ปรามกลุ่มบุคคลต่างๆ ไม่ให้จัดเสวนา
หรือพูดคุยเรื่องการเมือง และกรณีการควบคุมตัว นายนิธิ เอียวศรีวงศ์ และผู้ร่วมเสวนา เพื่อให้หยุดกิจกรรม “ห้องเรียนประชาธิปไตย” ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ว่า ความจริงแล้วคสช.ไม่ได้ห้าม แต่ตอนนี้มันมีช่องทางที่ให้เสนอแนะได้อยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นแนวทางการพัฒนาหรือการปฏิรูปประเทศไม่ว่า จะเป็นสภาปฏิรูปแห่งชาติหรือศูนย์ต่างๆที่เราเปิดให้ แต่ถ้าไปพูดกันในกลุ่ม ในวง ซึ่งมันหมิ่นเหม่ต่อการที่จะมีแนวคิดที่จะทำให้เกิดความขัดแย้งหรือแนวความคิดที่อ่อนไหวต่อสภาวะขณะนี้ ก็ต้องขอกัน เพราะต้องยอมรับว่าเราไม่ได้อยู่ในสภาวะที่ปกติ


“กรณีที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่เขาใช้ดุลพินิจอย่างมากในการที่จะเข้าไปพูดคุย ไม่ใช่ว่าอยู่ๆ เจ้าหน้าที่จะเข้าไปเลย แต่ก่อนหน้านั้น ได้มีการพูดคุย และทำความเข้าใจกันก่อนแล้วทั้งทางมหาวิทยาลัย เป็นเจ้าของสถานที่และคณะจัดไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆจะเข้าไปเลย ที่ผ่านมา คสช. พยายามที่จะทำให้เกิดการยอมรับในเหตุและผล อยากให้ใช้ช่องทางที่เปิดไว้ดีกว่า อย่าไปพูดกันอยู่ในวงของตัวเองโอกาสที่จะได้รับการแก้ไขก็จะไม่มีหากจะใช้วิธีแบบเดิมๆ ก็ต้องขอร้องกันว่าวิธีแบบนั้นมันอ่อนไหวต่อการที่จะทำให้ทุกอย่างเกิดความไม่เข้าใจกันก็ต้องขอร้องกัน”พ.อ.หญิงศิริจันทร์ ย้ำ


เมื่อถามว่าคสช.เป็นห่วงหรือไม่ว่าหากไม่เปิดช่องให้เขาระบายกันบ้างอาจจะเกิดการอัดอั้นจนเอาไม่อยู่
 
ทีมโฆษกคสช.กล่าวว่า คิดว่าขณะนี้สังคมโดยรวมมีความเข้าใจดีไม่ว่าจะเป็นในส่วนของมหาวิทยาลัยหรือส่วนที่เกี่ยวข้องเช่นนักการเมืองหรือคนที่ทำงานด้านการเมืองก็เข้าใจในสิ่งที่เป็นอยู่ขณะนี้เขาก็ให้เวลา ให้ทุกอย่างได้เดินไปตามที่มันควรจะเป็น ความไม่เข้าใจจะมีน้อยมาก

เมื่อถามว่าต่างประเทศเขาจะเข้าใจเราหรือไม่ พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า
 
คนไทยเข้าใจ ส่วนคนต่างประเทศ ถ้าดูในภาพรวมกับท่าทีต่างๆ ที่แสดงกลับมาก็ยังเป็นปกติ แต่แน่นอนจะให้เป็นปกติเหมือนในอดีตคงเป็นไปไม่ได้ แต่ด้วยเหตุและผลเขาอาจจะเข้าใจแต่การยอมรับทั้งหมดก็ต้องอยู่ในดุลพินิจของแต่ละประเทศเขา แต่เราก็มีเหตุผลของเรา คนไทยยอมรับซึ่งคนต่างประเทศก็น่าจะเคารพการตัดสินใจของประเทศไทย


เมื่อถามว่า หากยังคงมีเหตุการณ์แบบนี้เหมือนกรณีที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คสช.ก็อาจจะต้องเลื่อนการยกเลิกกฎอัยการศึกออกไปอีกใช่หรือไม่
 
ทีมโฆษก คสช. กล่าวว่า คนที่ดำเนินชีวิตปกติไม่ได้ทำอะไรที่ทำให้สังคมเดือดร้อนทำผิดกฎหมาย เขาไม่รู้สึกเลยด้วยซ้ำว่ามีกฎอัยการศึก ในอีกมุมหนึ่งกฎอัยการศึก สามารถทำให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูแล หรือจัดระเบียบสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ผิดกฎหมายได้ ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งที่ทำสิ่งผิดกฎหมาย ก็จะไม่ชอบและคิดว่ากฎอัยการศึกเป็นอุปสรรคต่อเขาที่จะทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย

“กฎอัยการศึก ไม่ได้ทำให้การดำเนินชีวิตของคนปกติ รู้สึกอึดอัดเลยดังนั้นอย่าไปกังวลกับตรงนี้จะเลิกหรือไม่เลิกจะอยู่หรือไม่อยู่ มันไม่ได้ทำให้คนดีรู้สึกอะไรเลยเพราะเราไม่ได้มีธุรกิจผิดกฎหมายไม่ได้ไปบุกรุกป่าไม้หรือตั้งรีสอร์ทอยู่ในพื้นที่ป่าสงวน ที่จะต้องมากลัวว่าตำรวจหรือทหารจะใช้กฎอัยการศึกเข้ามาดำเนินการตรวจสอบ” ทีมโฆษก คสช.กล่าว


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์