"จตุพร"มาเองนำทีมพบ"สมยศ"ร่อนจม.เปิดผนึก วอนทำคดีชุดดำโปร่งใส ย้ำนปช.ชุมนุมสงบ
วันที่ 18 กันยายน 2557 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.พร้อมนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ นายแพทย์เหวง โตจิราการ แกนนำ รวมทั้งทนายความของกลุ่ม นปช. เดินทางเข้าพบพลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่าที่ผบ.ตร. และคณะทำงานสอบสวนที่ดูแลคดีด้านความมั่นคง หลังเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการแถลงข่าวผลการสืบสวนจับกุมกลุ่มชายชุดดำที่ก่อเหตุใช้อาวุธเมื่อช่วงที่มีการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่10เมษายนปี2553
โดยทางกลุ่ม นปช.ได้ทำจดหมายเปิดผนึกทำความเข้าใจและเรียกร้องต่อ พลตำรวจเอกสมยศและคณะให้มีการสอบสวนจับกุมรวมถึงการทำแผนเป็นไปตามหลักนิติรัฐนิติธรรม
ซึ่งทางกลุ่มนปช.ได้ตั้งข้อสังเกตการแถลงข่าวจับกุมชายชุดดำ5คนว่าทำให้สังคมเกิดความเข้าใจว่าผู้ถูกจับกุมเป็นเหตุให้ทหารและพลเอกร่มเกล้าธุวธรรมเสียชีวิต แท้จริงตำรวจเพียงตั้งข้อกล่าวหาร่วมกันมีและใช้อาวุธปืนและพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเหตุการณ์ที่แถลงเป็นคนละจุดสถานที่และต่างเวลากับกรณีพลเอกร่มเกล้าเสียชีวิต ทั้งที่ผลการสอบสวนและหลักฐานได้ข้อยุติว่าพลเอกร่มเกล้าพร้อมทหาร4นาย เกิดจากระเบิดขว้างแบบM67ไม่ใช่อาวุธที่นำมาแถลง
ซึ่งที่ผ่านมาศพของทหารไม่ได้มีการชันสูตรพลิกศพตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญาสำหรับผู้เสียชีวิตผิดธรรมชาติมีเพียงแค่กรณีศพของพลทหารณรงค์ฤทธิ์ สาละเท่านั้น ซึ่งการแถลงข่าวมุ่งหวังเชื่อมโยงจากปี2553ถึง2557 ให้สังคมเข้าใจว่าเป็นการกระทำต่อเนื่องโดยไม่แสดงความขัดเจนของข้อมูลที่น่าเชื่อถือ
จึงเรียกร้องต่อพลตำรวจเอกสมยศและคณะดังต่อไปนี้
โดยให้นำคดีผู้เสียขีวิตปี2553ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือประชาชนทุกรายเข้าสู่กระบวนการสอบสวนโดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)และดำเนินการตามวิธีการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัดเท่าเทียม และโดยเร็ว เพื่อให้สังคมเข้าใจผิดและต้องหาคนผิดมาลงโทษ และไม่ให้ผู้บริสุทธิ์ต้องถูกกล่าวหา อีกทั้งขอให้ไม่กระทำละเมิดสิทธิมนุษยชน คุกคามบีบคั้น ให้ผู้ถูกกล่าวหาต้องรับสารภาพทางร่างกายและจิตใจ รวมถึงการแถลงข่าวจับกุมการทำแผนต้องทำโดยมีหลักฐานชัดเจนไม่ใช่ทำเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของบุคคลใดหรือคณะใด
นอกจากนี้นปช.ขอทำความเข้าใจว่ายินดีให้การสืบสวนสอบสวนดำเนินไปตามกฎหมายและหลักฐานไม่ได้ขัดขวางแต่ขอให้ทำงานตรงไปตรงมาพร้อมทั้งขอปฏิเสธการแถลงที่นำไปสู่ข้อสรุปว่า นปช.มีกองกำลังติดอาวุธโดยยืนยันว่าที่ผ่านมาเคลื่อนไหวสงบ โดยหวังว่าตำรวจจะสร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้น
ทั้งนี้ท้ายจดหมายเปิดผนึก ได้มีการแนบประกาศของคสช.ฉบับที่63/2557เกี่ยวกับนโยบายเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมของรัฐแนบมาด้วย
ล่าสุด ภายหลังกลุ่ม นปช. นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ ได้เข้าพบ พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร.แล้วนั้น พล.ต.อ.สมยศ ให้สัมภาษณ์ว่า ที่ผ่านมาในการดำเนินคดีชายชุดดำไม่เคยพาดพิงถึงกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังเจ้าหน้าที่ได้ทำตามพยานหลักฐาน อีกทั้งไม่เคยกล่าวว่ากลุ่มชายชุดดำที่นำมาแถลงเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของพลเอกร่มเกล้า เพียงแต่จับกุมในข้อหาครอบครอบอาวุธสงครามเท่านั้น เนื่องจากจุดเกิดเหตุก็อยู่คนละจุดกับที่พลเอกร่มเกล้าเสียชีวิตจึงต้องแจ้งทำความเข้าใจกับทางกลุ่ม นปช.
แต่ทั้งนี้หากการสอบสวนขยายผลว่ามีความเชื่อมโยงเจ้าหน้าที่จะดำเนินการ โดยยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่นิยมการคุกคามบีบคั้นหรือทำร้ายร่างกายผู้ถูกกล่าวหาให้รับสารภาพ และพร้อมให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
ซึ่งคดีเกี่ยวข้องกับการชุมนุมปี2553 ส่วนใหญ่จะอยู่ในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ
ทางสำนักงานแห่งชาติจะดูคดีที่เกี่ยวข้องกับคดีอาวุธสงครามเท่านั้น ถ้าคดีใดมีส่วนเกี่ยวข้องดีเอสไอจะขอโอนสำนวนไป ส่วนกรณีของ เปิ้บ กริชสุดา คุณะแสนที่เจ้าหน้าที่ออกหมายจับไปก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามหลักฐานหลังพบสลิปการโอนเงิน แต่ถ้ากริชสุดาปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้องขอให้บินกลับมาต่อสู้คดีที่ประเทศไทย ด้านนายจตุพร พอใจในการชี้แจงและเข้าใจการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และยืนยันไม่ได้ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องอีกทั้งไม่เคยรู้จักกับกลุ่มชายชุดดำ ขณะที่มั่นใจว่าจะไม่สร้างความขัดแย้ง เพราะการออกมาตามกรอบกติกาไม่เป็นการยุยงปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้ง