"บิ๊กตู่" มอบนโยบายบิ๊ก ขรก.สั่งห้ามเหลืองบค้างท่อ ระวังเรื่องทุจริต เหตุปชช.จับตาอยู่ เผยแก้ปัญหาความขัดแย้งประเทศได้แล้ว 90% กำหราบนักเรียน-นักเลง ตีกันเจอปิดโรงเรียนทันที
เมื่อวันที่ 17 ก.ย. เวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้กล่าวในระหว่างเป็นประธานการประชุมชี้แจงและมอบนโยบายรัฐบาลในภาพรวม แก่หัวหน้าส่วนราชการ ระดับปลัดกระทรวง อธิบดี รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ และผู้บัญชาการเหล่าทัพ ว่า ข้าราชการมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ โดยรัฐบาลทำงาน 3 ระดับ ด้านนโยบาย การขับเคลื่อน เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ ซึ่งที่ผ่านมาตนก็มีความพอใจที่เห็นข้าราชการมีศักดิ์ศรีในการทำงาน และมาร่วมกันทำงานกับรัฐบาลมากขึ้น แต่การทำงานของภาครัฐ ขอให้ข้าราชการทุกระดับ ต้องระวังในเรื่องปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นมากขึ้น เพราะประชาชนทุกคนต่างจับตามองเราอยู่ เราทำอะไรแบบเดิมไม่ได้อีกแล้ว เพราะพลาดเมื่อไหร่ก็จะโดนเมื่อนั้น แต่บางอย่างก็มีเจตนาบริสุทธิ์ แต่ก็ต้องมีการดำเนินการเป็นขั้นตอน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า การสื่อสารกับประชาชนในระดับล่างถือเป็นสิ่งสำคัญ ข้าราชการทุกระดับต้องลงพื้นที่ พยายามเข้าถึงประชาชนให้มากขึ้น ทำอะไรต้องนึกถึงความรู้สึกของประชาชน เพราะถ้าไม่เดือดร้อนเขาคงไม่มา เวลาลงพื้นที่ขอให้ทำตัวให้เล็กลง อย่าจัดฉาก ทั้งนี้ในการทำงานอยากให้ยึดหลักการทำงานตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ทุกคนต้องระลึกและนำไปใช้อยู่เสมอ และขอให้ทุกหน่วยงานจัดทำแผนการใช้งบประมาณอย่างมีคุณภาพ และบูรณาการ ต้องมีการคำนวนอย่างดี และให้งบประมาณลงไปถึงประชาชนอย่างทั่วถึงมากที่สุดตามลำดับความเดือดร้อน เพราะงบประมาณมีจำกัด ขอให้พยายามปรับปรุงงบประมาณที่ใช้ในการจัดสัมมนา โดยจัดในประเทศเป็นหลัก ไปต่างประเทศเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ทุกกระทรวงรายงานผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบัติภายในระยะเวลา 3 เดือน โดยจะมีหน่วยงานที่รับผิดชอบคอยตรวจสอบการใช้งบประมาณของทุกกระทรวง ที่สำคัญห้ามเหลืองบค้างท่อโดยไม่มีแผนงานรองรับ เพราะจะเป็นการแสดงให้เห็นว่าใช้งบประมาณไม่เป็น ปีต่อไปก็จะต้องมีการตัดงบ
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้ประเทศสามารถลดปัญหาความขัดแย้งไปได้ถึง 90% แล้ว แต่ก็ยังมีปัญหาความเหลื่อมล้ำ และพวกทำลายสถาบัน ซึ่งต้องร่วมกันแก้ปัญหา ทั้ง 3 ฝ่าย คือภาครัฐ เอกชน และประชาชน ต้องรับฟังปัญหาและเร่งแก้ไข ไม่ปล่อยให้บานปลาย สำหรับกรณีของน.ส.กริชสุดา คุณะแสน ที่ไปร้องต่อเวทีต่างประเทศ ว่าถูกทหารใช้ความรุนแรงระหว่างถูกคุมขังนั้น ขอยืนยันว่าทหารไม่ได้มีการทารุณอย่างที่ออกมาให้ข่าว การควบคุมตัว เพราะเจ้าตัวขอไว้เอง เพราะเกรงเรื่องความปลอดภัย แต่พอออกไปก็กลับไปให้ข้อมูลอีกอย่าง ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง
นอกจากนี้ในช่วงหนึ่ง นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวถึงปัญหาเรื่องนักเรียนตีกันว่า ขอฝากไว้ตรงนี้เลยว่าต่อไปนี้หากเกิดปัญหานักเรียนตีกัน จะสั่งให้ปิดคณะที่มีปัญหาทันที และเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่ามีปัญหาที่โรงเรียนก็จะปิดโรงเรียน และทุกคนจะต้องถูกดำเนินคดี