"จตุพร" ยันไม่เกี่ยวข้องชายชุดดำ ซัดตร.สร้างสถานการณ์จับผู้ต้องหา หวังผลประโยชน์การเมือง มั่นใจคดีหลุดชั้นศาลล้านเปอร์เซ็นต์ จี้ "สมยศ"ออกหมายเรียก "ถาวร"
เมื่อวันที่ 15 ก.ย. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. กล่าวในรายการ “มองไกล”ออกอากาศทางสถานีดาวเทียมพีซทีวี อย่างเป็นทางการตอนแรก ว่า วันนี้ควรเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้แสดงความเห็นที่เป็นประโยชน์กับชาติบ้านเมือง การปิดประตูไม่ให้แสดงความเห็นนั้นไม่เป็นประโยชน์กับฝ่ายใด เพราะไม่มีใครเอาฝ่ามือไปปิดแผ่นฟ้าได้ ถือเป็นสัจธรรม เรื่องใหญ่กว่านั้นคือความยุติธรรม วันนี้ตนต้องพูดในเรื่องชายชุดดำอีก เมื่อวันที่ 14 ก.ย.ตนได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ว่าที่ ผบ.ตร.เพื่อที่จะนัดหมายไปพบ โดยมีตน นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานที่ปรึกษา นปช. พร้อมทนายความ เพื่อไปพูดคุยในคดีต่างๆ เพราะประชาชนตายกว่า 90 ศพ ทหารอีก 10 ศพ ประชาชนบาดเจ็บกว่า 2,000 คน ทั้งทหารและประชาชนต้องได้รับความยุติธรรมอย่างเท่าเทียมกัน ไม่เช่นนั้นจะนำพาไปสู่ความแตกแยกของสังคม โดยหน่วยงานของรัฐต้องปฏิบัติตามประกาศที่ 63/2557 ของ คสช. ที่ให้หน่วยงานรัฐปฏิบัติงานด้วยความยุติธรรม
นายจตุพร กล่าวอีกว่า กรณีเรื่องชายชุดดำที่ถูกจับได้ 5 คน แต่นำไปทำแผน 4 คนนั้น ขอย้ำอีกครั้งว่าบุคคลเหล่านั้นไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตนเลย อยากให้เสียงนี้ไปถึงนางนิชา หิรัญบูรณะ ภรรยาพล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม ว่าการตั้งคดีอย่างนี้ถึงอย่างไรศาลก็ต้องยกฟ้องในที่สุด เพราะพยานกับข้อเท็จจริงขัดแย้งกัน ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ป.วิอาญา ตามขั้นตอนเมื่อเป็นคดีพิเศษ ตำรวจไม่มีอำนาจที่จะกระทำการเอง มีสิทธิ์เป็นพนักงานสอบสวนร่วมกับดีเอสไอ แต่ต้องมีอัยการหรือทนายของผู้ต้องหาร่วมรับฟังการสอบสวนด้วย ศาลจะต้องเป็นคนชี้ในการไต่สวนสำนวนชันสูตรพลิกศพว่าผู้ตายเป็นใคร ตายจากสาเหตุอะไร และใครเป็นคนร้ายที่ทำให้ตาย ทั้งจุดที่ตายและอาวุธก็ไม่ตรงกัน แต่มีการประโคมข่าวว่าชายชุดดำทั้ง 4 เป็นมือสังหารพล.อ.ร่มเกล้า แล้วก็พาไปทำแผนที่สี่แยกคอกวัว ถ.ตะนาว ขณะที่พล.อ.ร่มเกล้าตายที่ ถ.ดินสอ ประกอบกับคำรับสารภาพว่าไม่เคยใช้ระเบิดมาก่อน แต่มีคนแนะนำให้ใช้ก่อนไปก่อเหตุเพียงไม่กี่ชั่วโมง รวมทั้งพยายามเชื่อมโยง น.ส.กริชสุดา คุณะเสน ซึ่งตนก็ไม่รู้จักว่าเป็นใคร
"โดยพฤติกรรมแวดล้อมต่าง ๆ จึงชี้อย่างชัดเจนว่าคดีนี้ไม่ได้ต้องการนำผู้ต้องหามาดำเนินคดีอาญาอย่างแท้จริง เป็นการสร้างสถานการณ์ให้อึกทึกครึกโครม หวังผลประโยชน์ทางการเมืองเท่านั้น พล.ต.อ.สมยศต้องรู้เหมือนกันว่าอาวุธที่นำมาทำแผนนั้นเป็นคนละชนิดกับกรณีพล.อ.ร่มเกล้าตาย หลุด 1 ล้านเปอร์เซ็นต์"นายจตุพร กล่าว และว่าส่วนการปูดข่าวว่าชายชุดดำจะไปพบนายถาวร เสนเนียม อดีตแกนนำ กปปส. เรียกเงิน 5-10 ล้านนั้น นายถาวรเองก็เป็นนักกฎหมาย รู้ว่าพูดมาศาลไม่ฟังพยานที่ถูกจ้างวาน มันจึงไม่มีผลในทางคดี แต่เมื่อรู้แล้วทำไมไม่บอกว่าใครเป็นใคร และเหตุใดพล.ต.อ.สมยศไม่เรียกนายถาวรมาเป็นพยาน เมื่อรู้ตัวคนร้ายปกปิดปกป้องคนร้ายก็เข้าข่ายความผิดเช่นเดียวกัน พล.ต.อ.สมยศต้องออกหมายเรียกนายถาวรไปพบในกรณีนี้ ถ้าไม่มาก็ต้องตั้งข้อกล่าวหา นายถาวรเท่ากับรู้ว่าคนร้ายเป็นใคร และการไม่แจ้งกับเจ้าหน้าที่ก็เท่ากับมีความผิดให้การปกปิดซ่อนเร้นสถานที่ชายชุดดำ