“จตุพร”ชี้พิรุธทำแผนชายชุดดำ

“จตุพร”ชี้พิรุธทำแผนชายชุดดำคนละจุด “ร่มเกล้า”ตาย ชม “บิ๊กตู่”แฟร์ถ้าไม่ผิดให้สู้คดี

วันที่14 ก.ย.นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. กล่าวในรายการพีซทอล์ค ทางช่องพีซ ทีวีโดยได้ออกอากาศไปเมื่อวันที่ 13ก.ย.

ถึงกรณีการจับกุมชายดำจำนวน 5 คนที่ก่อเหตุใช้อาวุธสงครามยิงใส่ผู้ชุมนุมและทหารในเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 10เม.ย.ปี2553 ใจความตอนหนึ่งว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเวลานื้และพยายามสร้างกระแสความชิงชังให้เกิดขึ้น ขออย่าได้เดินตามกระแสนี้ความตายของทุกคนทั้งประชาชนนักข่าวต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่ทหารแต่ละชีวิตไม่ควรมาตายในการต่อสู้เรียกร้องประชาธิไตยอย่าได้คิดว่า พวกตนจะมีความหวั่นวิตก ว่า ประกฏการณ์ชายชุดดำจะทำให้เกิดปัญหากับพวกตน ทั้งนี้ขอยืนยัน ไม่ว่าชายชุดอะไรก็ตามถ้าเป็นผู้ร้าย ทำให้คนตายต้องดำเนินการตามกฎหมายอาญาของแผ่นดินสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องไต่สวนสำนวนที่เหลือให้แล้วเสร็จมากกว่าการปฏิบัติการทางจิตวิทยาสิ่งที่กระทำเวลานี้กับสิ่งที่เป็นข่าวขัดแย้งกันเอง พล.ต.อ.สมยศพุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร.ได้นำชายชุดดำทั้ง5 ไปทำแผนบริเวณ ถ.ตะนาวคนละจุดกับที่ พล.อ.ร่มเกล้าธุวธรรม เสียชีวิตซึ่งเป็นบริเวณ ถ.ดินสอวันนี้เป็นการพูดถึงความตายด้านเดียวแต่กรณี 90กว่าศพ ไม่พูดถึง

นายจตุพรกล่าวว่า พวกตนพยายามสงบปากสงบคำรักษากรอบและรักษาบรรยากาศของบ้านเมือง

ขอเตือนอย่าตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์ที่อธิบายเรื่องชายชุดดำไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้เพราะไม่รู้ว่าเป็นใคร วันนี้ต้องการเห็นพล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีบริหารประเทศแต่ไม่ต้องการเห็นฝ่ายหนึ่งกระทืบอีกฝ่ายหนึ่งในบรรยากาศที่บ้านเมืองต้องการความปรองดองบ้านเมืองของเราต้องเดินหน้าต่อไปด้วยสันติวิธีและความมีเหตุผลทั้งนี้เรื่องชายชุดดำฟังพล.อ.ประยุทธ์ได้แสดงความคิดเห็นจะเห็นว่าก็แฟร์ดีพล.อ.ประยุทธ์ บอกว่ามีหลักฐานถ้าไม่ผิดก็ให้ไปต่อสู้คดีเท่านี้ก็พอแล้ว สำหรับคนที่เป็นผู้นำก็สื่อสารทำความเข้าใจกันได้ถ้าแต่ละฝ่ายในระดับปฏิบัติได้สื่อสารทำความเข้าใจอย่างตรงไปตรงมาแต่ถ้าดำเนินคดีอีกเรื่องหนึ่งแต่ความเข้าใจอีกเรื่องหนึ่งปัญหาก็ไม่จบ

นายจตุพรกล่าวอีกว่าตนอยากจะบอกพล.ต.อ.สมยศ ว่า ให้ไปดูสำนวนการไต่สวนของนายพันคำกอง

ซึ่งศาลไดัส่งแล้วว่าเสียชีวิตจากการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ ที่ปฎิบัติตามคำสั่งกรมสอบสวนดคีพิเศษ (ดีเอสไอ)เขาไม่ฟ้องผู้ปฏิบัติแต่ฟ้องผู้ออกคำสั่งจนคดีหลุดไปสู่ ป.ป.ช.และยังมีกรณีที่อยู่ในขั้นตอนการชันสูตรพลิกศพอีกจำนวนมากไม่มีหลักฐานแม้แต่เพียงชิ้นเดียว ว่า ทุกศพที่ตายมีเขม่าดินปืนในมือมีอาวุธในมือ หรือเป็นผู้ก่อการร้าย ในอดีตที่ปัญหาไม่จบ เพราะต่างฝ่ายต่างใช้ปฏิปักษ์ปฏิบัติต่อกันเราต่างมีบทเรียนมาครบถ้วน ว่า การใช้กรรมการที่ปฏิปักษ์ไปปฎิบัติต่อกันนั้นปัญหามันไม่จบตนเห็นว่าขณะนี้พวกเราและแต่ละฝ่ายต้องใช้เหตุผลระหว่างกันและต้องคิดเสมอว่าความยุติธรรมจะเป็นหนทางแก้ไขปัญหาถ้าอยุติธรรมไม่ว่าจะสามารถกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งก็ทำได้ชั่วเวลาหนึ่งแต่ถ้ายุติธรรมจะแก้ไขได้ชั่วนิรันดร์ถ้ามีความยุติธรรมไม่มีสองมาตรฐานบ้านเมืองก็เดินหน้าต่อไปได้.