นายมณฑล กล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นการจัดซื้อระบบไมโครโฟนราคาสูงกว่าท้องตลาดนั้น
กรมโยธาธิการและผังเมืองได้คัดเลือก บริษัทอัศวโสภณ จำกัด เป็นผู้ดำเนินการติดตั้ง เพราะมีประสบการณ์และมีชื่อเสียงในการติดตั้งอุปกรณ์ระบบเสียง โดยได้นำไมโครโฟน รุ่น DCNM - MMD ซึ่งบริษัท Bosch Thailand เป็นผู้นำเข้า โดยไมโครโฟนรุ่นนี้ถูกใช้ในการประชุมระดับสูง เช่น การประชุม Nuclear Summit ที่ เนเธอร์แลนด์ และยังไม่มีหน่วยงานราชการไทยใช้มาก่อน ซึ่งบริษัท Robert Bosch Limited ตั้งราคาเสนอขายตัวละ 145,000 บาท
แต่ บริษัทอัศวโสภณ ซึ่งเป็นลูกค้าทางบริษัทได้เจรจาเพื่อขอต่อรองและได้ราคาส่วนลดที่ 35% คงเหลือเครื่องละ 94,250 ต่อ ทำให้สามารถประหยัดงบประมาณไปได้ 14,188,000 บาท
ส่วนสาเหตุที่เอกสารใบเสนอราคาที่ปรากฏในเว็ปไซต์ของกรมโยธาธิการและผังเมือง ระบุราคาไมโครโฟนเครื่องละ 139,960 นั้น
นายมณฑล ระบุว่า เอกสารดังกล่าวเป็นเพียงใบเสนอราคากลางเพื่อตั้งเป็นงบประมาณในการเบิกจ่ายเท่านั้น ไม่ใช่ราคาที่จะจัดซื้อจัดจ้าง พร้อมยืนยันว่ายังไม่มีการทำสัญญาและจ่ายเงิน 15% ตามที่เป็นข่าว และยังไม่มีการสั่งซื้อหรือการส่งมอบโดยจะรอทดสอบระบบที่ติดตั้งว่าสามารถใช้งานได้จริง มีประสิทธิภาพและสามารถป้องกันข้อมูลรั่วไหลได้ จึงจะตรวจรับงานดังกล่าว
“ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าทางกรมซื้อหลอดไฟราคาดวงละเเสนกว่าบาทนั้น ไม่เป็นความจริง ผมฟังแล้วจะเป็นลม เนื่องจากเราได้ติดตั้งระบบเป็นชุดหลอดไฟ LED ซึ่งมีหลายดวง สามารถปรับความสว่าง มืดให้เหมาะสมสำหรับห้องประชุม ราคาจึงมีความสมเหตุสมผล เเละยอมรับได้”
เมื่อถามว่า ราคาไมโครโฟนเครื่องละ 94,250 บาท คือราคาที่เคาะแล้วหรือไม่ นายมณฑล
ตอบว่า โดยส่วนตัวมองว่าเป็นราคาที่เหมาะสม และได้ต่อรองอย่างเต็มที่แล้ว เพราะต้องยอมรับว่าบริษัทเอกชนเขาก็ต้องการกำไร ส่วนตัวเลขสุทธิคาดว่าภายใน 1-2 วันนี้จะได้ตัวเลข และจะให้ตรวจสอบอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า เมื่อไม่มีการจัดซื้อแต่ทำไมถึงมีการติดตั้งไปแล้ว และหากไม่เอาจะยกเลิกได้หรือไม่
นายมณฑล ตอบว่า ตามเอกสารเป็นการยกเว้นระเบียบพัสดุ เหมือนการซื้อของเข้าบ้าน ไม่มีระเบียบอะไรรองรับเลย อยู่ที่ความรับผิดชอบของคนลงนามในสัญญา ไม่มีว่าต้องเป็นไปตามกระบวนการ 1 2 3 เพราะจะไม่ทัน ส่วนคำถามที่ว่า ถ้าสุดท้ายแล้วต่อรองแล้วไม่พอใจ ไม่เอาได้ไหม ตรงนี้เป็นข้อตกลงร่วมกัน บนพื้นฐานความเชื่อใจ เพราะไม่มีเวลาจะไปคัดเลือกใคร ก็ต้องเลือกคนที่เราเชื่อ เขาก็ต้องเชื่อหลวง เพราะถ้าทำแล้วเบิกเงินไม่ได้จะทำอย่างไร เป็นความเสี่ยงที่เขาเชื่อ
“ยืนยันว่าการดำเนินการครั้งนี้เราทำอย่างรอบคอบ เพราะการไม่มีระเบียบตรวจสอบมันยิ่งหนัก ซึ่งผมสังวรถึงตรงนี้มาตลอด ไม่ใช่จะทำอะไรก็ทำ การมีระเบียบทำให้สบายใจกว่ามาก แต่นี่ไม่มีอะไรเลยก็ต้องรัดกุม ส่วนเรื่องการตัดสินใจเลือกซื้อนั้น ขอเรียนว่าในด้านโจทย์ เราได้มาว่าต้องทันสมัย เป็นหน้าตา ต้องดี เราก็เลือกเอาที่ดีที่สุด” นายมณฑล กล่าว
วันเดียวกัน นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.)
เปิดว่า การจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษหรืองดระเบียบจัดซื้อจัดจ้าง สามารถทำได้หากมีเหตุผลที่สมควร ซึ่งกรณีลักษณะนี้ ป.ป.ช. ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ทันที ต้องรอให้มีผู้ร้องเรียนเข้ามาก่อน จึงจะเข้าไปตรวจสอบได้