โยธาแจงไมค์ไม่ถึงแสน ยันลดแล้วเหลือ9.4หมื่น ยังไม่ได้ซื้อ-แค่ทดสอบ

เมื่อวันที่ 10 กันยายน ที่กรมโยธาธิการและผังเมือง นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง

พร้อมด้วยผู้บริหารบริษัทอัศวโสภณ จำกัด และหจก.ภัทรรุ่งโรจน์ ร่วมกันแถลงข่าวกรณีการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารบัญชาการ 1 และ 2 ทำเนียบรัฐบาลรวมทั้งบ้านพิษณุโลก ซึ่งถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างที่แพงเกินจริง เช่น การติดตั้งไมโครโฟนในห้องประชุมตึกบัญชาการ 1 ที่มีราคาสูงถึงตัวละกว่า 1 แสนบาท

โดย นายมณฑล กล่าวว่า การปรับปรุงภูมิทัศน์และระบบสาธารณูปโภคต่างๆ มีทั้งหมด 4 สัญญา วงเงินงบประมาณ 169 ล้านบาท
 
โดยมีการทำสัญญากันเพียง 3 สัญญา ยกเว้นงานปรับปรุงและติดตั้งระบบโสตทัศน์และระบบไฟฟ้าห้องประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เนื่องจากมีรายละเอียดในเรื่องอุปกรณ์และราคา ซึ่งยังไม่มีการเซ็นสัญญากันตั้งแต่แรก เนื่องจากมีรายละเอียดเทคนิคต้องพิจารณารวมทั้งต่อรองราคาก่อน

นายมณฑล กล่าวต่อว่า ทั้งทำเนียบรัฐบาลและบ้านพิษณุโลกมีความชำรุดเสียหายเป็นอย่างมาก
 
ประกอบกับไม่ได้รับการซ่อมแซมมาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 12 ปี และต้องรีบดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 9 กันยายน หรือมีเวลาเพียง 50 วัน สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีภายใต้ความเห็นชอบจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จึงให้ยกเว้นระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2549 เพื่อดำเนินการเรื่องนี้


โยธาแจงไมค์ไม่ถึงแสน ยันลดแล้วเหลือ9.4หมื่น ยังไม่ได้ซื้อ-แค่ทดสอบ

นายมณฑล กล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นการจัดซื้อระบบไมโครโฟนราคาสูงกว่าท้องตลาดนั้น

กรมโยธาธิการและผังเมืองได้คัดเลือก บริษัทอัศวโสภณ จำกัด เป็นผู้ดำเนินการติดตั้ง เพราะมีประสบการณ์และมีชื่อเสียงในการติดตั้งอุปกรณ์ระบบเสียง โดยได้นำไมโครโฟน รุ่น DCNM - MMD ซึ่งบริษัท Bosch Thailand เป็นผู้นำเข้า โดยไมโครโฟนรุ่นนี้ถูกใช้ในการประชุมระดับสูง เช่น การประชุม Nuclear Summit ที่ เนเธอร์แลนด์ และยังไม่มีหน่วยงานราชการไทยใช้มาก่อน ซึ่งบริษัท Robert Bosch Limited ตั้งราคาเสนอขายตัวละ 145,000 บาท
 
แต่ บริษัทอัศวโสภณ ซึ่งเป็นลูกค้าทางบริษัทได้เจรจาเพื่อขอต่อรองและได้ราคาส่วนลดที่ 35%
คงเหลือเครื่องละ 94,250 ต่อ ทำให้สามารถประหยัดงบประมาณไปได้ 14,188,000 บาท

ส่วนสาเหตุที่เอกสารใบเสนอราคาที่ปรากฏในเว็ปไซต์ของกรมโยธาธิการและผังเมือง ระบุราคาไมโครโฟนเครื่องละ 139,960 นั้น
 
นายมณฑล ระบุว่า เอกสารดังกล่าวเป็นเพียงใบเสนอราคากลางเพื่อตั้งเป็นงบประมาณในการเบิกจ่ายเท่านั้น ไม่ใช่ราคาที่จะจัดซื้อจัดจ้าง พร้อมยืนยันว่ายังไม่มีการทำสัญญาและจ่ายเงิน 15% ตามที่เป็นข่าว และยังไม่มีการสั่งซื้อหรือการส่งมอบโดยจะรอทดสอบระบบที่ติดตั้งว่าสามารถใช้งานได้จริง มีประสิทธิภาพและสามารถป้องกันข้อมูลรั่วไหลได้ จึงจะตรวจรับงานดังกล่าว

“ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าทางกรมซื้อหลอดไฟราคาดวงละเเสนกว่าบาทนั้น ไม่เป็นความจริง ผมฟังแล้วจะเป็นลม เนื่องจากเราได้ติดตั้งระบบเป็นชุดหลอดไฟ LED ซึ่งมีหลายดวง สามารถปรับความสว่าง มืดให้เหมาะสมสำหรับห้องประชุม ราคาจึงมีความสมเหตุสมผล เเละยอมรับได้”

เมื่อถามว่า ราคาไมโครโฟนเครื่องละ 94,250 บาท คือราคาที่เคาะแล้วหรือไม่ นายมณฑล
 
ตอบว่า โดยส่วนตัวมองว่าเป็นราคาที่เหมาะสม และได้ต่อรองอย่างเต็มที่แล้ว เพราะต้องยอมรับว่าบริษัทเอกชนเขาก็ต้องการกำไร ส่วนตัวเลขสุทธิคาดว่าภายใน 1-2 วันนี้จะได้ตัวเลข และจะให้ตรวจสอบอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า เมื่อไม่มีการจัดซื้อแต่ทำไมถึงมีการติดตั้งไปแล้ว และหากไม่เอาจะยกเลิกได้หรือไม่
 
นายมณฑล ตอบว่า ตามเอกสารเป็นการยกเว้นระเบียบพัสดุ เหมือนการซื้อของเข้าบ้าน ไม่มีระเบียบอะไรรองรับเลย อยู่ที่ความรับผิดชอบของคนลงนามในสัญญา ไม่มีว่าต้องเป็นไปตามกระบวนการ 1 2 3 เพราะจะไม่ทัน ส่วนคำถามที่ว่า ถ้าสุดท้ายแล้วต่อรองแล้วไม่พอใจ ไม่เอาได้ไหม ตรงนี้เป็นข้อตกลงร่วมกัน บนพื้นฐานความเชื่อใจ เพราะไม่มีเวลาจะไปคัดเลือกใคร ก็ต้องเลือกคนที่เราเชื่อ เขาก็ต้องเชื่อหลวง เพราะถ้าทำแล้วเบิกเงินไม่ได้จะทำอย่างไร เป็นความเสี่ยงที่เขาเชื่อ

“ยืนยันว่าการดำเนินการครั้งนี้เราทำอย่างรอบคอบ เพราะการไม่มีระเบียบตรวจสอบมันยิ่งหนัก ซึ่งผมสังวรถึงตรงนี้มาตลอด ไม่ใช่จะทำอะไรก็ทำ การมีระเบียบทำให้สบายใจกว่ามาก แต่นี่ไม่มีอะไรเลยก็ต้องรัดกุม ส่วนเรื่องการตัดสินใจเลือกซื้อนั้น ขอเรียนว่าในด้านโจทย์ เราได้มาว่าต้องทันสมัย เป็นหน้าตา ต้องดี เราก็เลือกเอาที่ดีที่สุด” นายมณฑล กล่าว

วันเดียวกัน นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.)

เปิดว่า การจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษหรืองดระเบียบจัดซื้อจัดจ้าง สามารถทำได้หากมีเหตุผลที่สมควร ซึ่งกรณีลักษณะนี้ ป.ป.ช. ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ทันที ต้องรอให้มีผู้ร้องเรียนเข้ามาก่อน จึงจะเข้าไปตรวจสอบได้


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์