งัดแผนดาวกระจาย ตลบหลังชิงพื้นที่การเมือง

ฝีมือเดินเกมการเมืองยังคงเหนือชั้น


แม้จะมีสถานะเป็นเพียง "อดีตผู้นำ" ผู้ซึ่งยังไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง แต่ก็ทำเอาผู้คนหัวปั่น บ้านเมืองปั่นป่วนได้ไม่เว้นแต่ละวัน

ว่ากันว่าจิตวิทยาการเมืองที่ ทักษิณ ชินวัตร หยิบมาใช้นั้นถือเป็นยุทธศาสตร์ชั้นเลิศของ พ.ศ.นี้

แผนแยกสายตีเมือง เปิดเกมรุกทั้ง "ในและนอกประเทศ" เล่นเอา "คมช.-และรัฐบาล" ปวดเศียรเวียนเกล้าไม่รู้จบ เดินตามเกมแทบไม่ทัน

ทำได้แค่เพียง "ตั้งรับ" ไปวันๆ


ที่สำคัญต้องยอมรับในระดับหนึ่งว่า


การออกมาวัดกำลังกันระหว่าง "ขั้วอำนาจใหม่" และ "ขั้วอำนาจเก่า" นั้น ฝ่ายที่เป็นอดีตเดินหมากรุกได้เหนือชั้นกว่าหลายขุม

ล่าสุดส่งทนายตระกูลชินวัตร "นพดล ปัทมะ" แถลงข่าวเอี้ยวตัวหลบจากห่ากระสุนที่กำลังพุ่งเข้าใส่ "นาย" ด้วยข้อหาว่าจ้างฝรั่งต่างชาติโจมตีประเทศไทย

ออกตัวเลิกจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์ "อีเดลแมน" ยกเหตุต้องการแสดงความบริสุทธิ์ ปฏิเสธข้อหาเดินเกมการเมืองนอกประเทศถล่มรัฐบาลไทยตามที่ถูกกล่าวหา

เรียกว่ากลับท่าทีทันควัน หลังถูก คมช.เพ่งเล็งอยู่เบื้องหลังยืมมือต่างชาติ โจมตีไทย จากกรณีถูกขึ้นบัญชีดำเรื่องสิทธิบัตรยา

ไม่นับการเปิดเกมรุก "ดึงกีฬาบังหน้า" ช็อกสายตาผู้คนทั่วบ้านทั่วเมือง

หลังลิ่วล้อคนสนิทกรุยทางขึ้นสู่ตำแหน่ง "นายกสมาคมกอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย" โดยที่เจ้าตัวไม่ต้องออกแรงให้เหนื่อยแม้แต่น้อย

ลอยลำเข้าป้ายอย่างไร้คู่แข่ง ทั้งๆ ที่ตัวก็ไม่ได้อยู่เมืองไทย

ยังรวมถึงเกมการเมืองขย่ม "รัฐบาล" และ "คมช." ไม่เว้นแต่ละวันผ่านเวบไซต์ "ไฮ-ทักษิณ"

ก้าวย่างทั้งหมดนี้ถือเป็นความจงใจ "สร้างกระแส" ความสนใจจากสังคม


ขณะเดียวกันก็ส่งสัญญาณการเคลื่อนไหวในเชิง "สัญลักษณ์"


ให้บรรดามวลชนฐานอำนาจเก่าที่กำลังเคลื่อนไหวชุมนุมในประเทศรับรู้ความเป็นไป

ก่อนเป่านกหวีด...ปรี๊ด

"สวนทาง" กับคำประกาศผ่านที่ปรึกษากฎหมายส่วนตัวว่า ขอยุติบทบาท และวางมือทางการเมืองอย่างสิ้นเชิง

หากดูปฏิทินการเมืองนับจากนี้ ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ถือได้ว่าจังหวะเวลาที่อุณหภูมิการเมืองจะร้อนแรงที่สุด

คิว "ล้างบาง" หลายเรื่องจ่อคอหอยให้ได้ติดตามชนิดห้ามกะพริบตา

ไม่ว่าจะเป็นกรณีคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เตรียมสางคดีทุจริตหลายโครงการจ่อคิวขึ้นสู่ศาล

ส่งผลถึงทรัพย์สินของ "ทักษิณ" และ "ตระกูลชินวัตร" หลายกรณี

และโดยเฉพาะอย่างยิ่งฤกษ์ดี 30 พฤษภาคม ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินคดี "ยุบพรรค"

พลพรรคยังรอลุ้น "โทษประหาร" ชนิดใจคอระทึก แม้ว่าจะรับรู้ชะตากรรมเลาๆ แล้วก็ตาม


แต่ "อุบัติเหตุการเมือง" หนนี้หาใช่อุปสรรคที่จะทำให้สะทกสะท้านไม่


เพราะแผนสอง-สาม-สี่ ได้เตรียมไว้พร้อมแล้ว

ด้วยยุทธศาสตร์ "ดาวกระจาย"

มีการวางสายกระจายไปในทุกองคาพยพของแวดวงการเมือง

แตกตัวออกไปเป็นกลุ่มการเมืองย่อยๆ เพื่อง่ายต่อการขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวทางการเมือง

แต่ละกลุ่มวางตัวเสมือนเป็นผู้ต้องการ "ปลดแอก" จากระบอบทักษิณ

จึงไม่แปลกที่จะได้เห็นการย่อยสลายพรรคไทยรักไทยออกไปภายใต้ยี่ห้อใหม่ๆ

ไม่ว่าจะเป็น มัชฌิมา-ธรรมาธิปไตย-แนวร่วมสมานฉันท์

ขณะที่แกนกลางไทยรักไทยเหลือไว้เพียง 15-20 คนที่ฝากชีวิตไว้กับ จาตุรนต์ ฉายแสง

ยังไม่นับการจับกันแบบหลวมๆ พร้อมด้วยท่อน้ำเลี้ยง ไปยัง "กลุ่มบิ๊กจิ๋ว" ที่เตรียมประกาศตั้งพรรคเป็นทางการ พร้อมด้วยพันธมิตรอย่างพรรคพลังแผ่นดินไทย ที่พร้อมจะไหลไปในทางเดียวกัน


ยังมีการผูกมิตรกับทั้งพรรคมหาชน โดยการสายตรงผ่าน "เสธ.หนั่น"


ทั้งหมดนี้คือแผนการที่เตรียมไว้ภายหลังพรรคไทยรักไทยถูกประหารชีวิต

รอวันฟ้าเปิดหลังการเลือกตั้งครั้งใหม่ เมนู "แกงโฮะ" จะหวนกลับมาเกิดอีกครั้ง

ภายใต้ "ผู้นำคนใหม่" แต่เครือข่ายเดียวกัน

ฉะนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจที่จะเห็นภาพการขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบและต่อเนื่องในช่วงเวลานับจากนี้

โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวล่าสุดของเครือข่ายพีทีวีที่เตรียมตีฆ้องนัดชุมนุมใหญ่ 31 พฤษภาคม ให้หลังวันตัดสินชี้ชะตาเพียงแค่ข้ามวัน

"วัดพลังมวลชน" ระหว่างฝ่ายที่สนับสนุนขั้วอำนาจเก่าและใหม่

เดิมพันกันเห็นๆ


หากมีผู้มาชุมนุมไม่เต็มพื้นที่ท้องสนามหลวงก็พีทีวีจะยอมถอยทัพยกเลิกการชุมนุม


แต่ถ้าสถานการณ์พลิกคลื่นมวลชนแห่แหนเต็มท้องสนามหลวง คมช.และรัฐบาลก็ต้องเป็นฝ่ายลงจากอำนาจแทน

อาศัยจังหวะปลุกระดมแนวร่วมจากฐานเสียงสมาชิกพรรคไทยและ "คนรักทักษิณ" ที่มีอารมณ์ร่วม หากศาล รธน.ตัดสินยุบพรรคไทยรักไทย ให้เลือกข้างออกมาแสดงพลังกดดันครั้งสำคัญ

ถือเป็นสภาวะที่ "ฝ่ายถูกรุกไล่" หันกลับมา "เอาคืน" ฝ่ายกระทำก่อนที่เตรียมเร่งเครื่องนำพา"สถานการณ์" ให้เข้าสู่ฉากสุดท้ายเร็วขึ้น

ถึงตอนนั้น...อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้



ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพ จาก หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์