โดย การ์ตอง
คอลัมน์ โครงร่างตำนานคน
7 กันยายน 2557
ทันทีที่อัยการสรุปสำนวนทุจริตเรื่องรับจำนำข้าวที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวหาว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีความผิด หลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะสั่งฟ้อง ต้องดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติม
อาการจะเป็นจะตายเกิดขึ้นทันทีกับคนหลายกลุ่ม ทั้งที่แสดงออกในทางสาธารณะ แสดงออกเฉพาะกลุ่มในแวดวงสนทนา และสื่อสารออนไลน์
จะเป็นจะตายเพราะเกิดแรงเสียดทานที่หัวใจจนได้ลำบาก ที่ "อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์" ไม่เผชิญชะตากรรมเหมือนที่อยากให้เป็น
ความเกลียดชังเหมือนไฟสุมทรวง ดั่งหนามแหลมที่แทงคาอยู่ในใจ
คนกลุ่มนี้เหมือนไม่มีทางที่จะมีชีวิตอย่างมีความสุขได้เลยหาก "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ยังใช้ชีวิตได้อย่างปกติเหมือนประชาชนคนไทยคนหนึ่งควรจะได้ใช้
อารมณ์ความรู้สึกเช่นนี้ว่าไปเป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้
หลังจากที่ร่วมไม้ร่วมมือ ผนึกกำลังกันเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ จนประสบความสำเร็จด้วยการกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นำกำลังกองทัพออกมายึดอำนาจการปกครอง
คนกลุ่มนี้เหมือนรู้สึกมีอาการเหมือนใกล้ถึงจุดสุดยอด
ดีอกดีใจ เฉลิมฉลองความสุข ประกาศชัยชนะกันถ้วนทั่ว
แม้จะมีบางสิ่งที่หวานอมขมกลืนอยู่บ้าง ก็นึกเสียว่ายอมอดทนเพื่อแลกกับการขจัดความเกลียดชังอันเป็นไฟสุม หนามแหลมในใจของตัวเองออกไป
มีความคาดหวังอย่างสูงยิ่งว่า "คณะรักษาความสงบแห่งชาติ" หรือ "คสช." จะดำเนินการถอนหนาม ดับไฟในใจตัวให้ ด้วยการล้างบางคนที่พวกตัวเกลียดชังให้หายนะกันไปโดยเร็ว
เพียงแต่ว่ายิ่งนับวันดูเหมือนความฝันที่บรรเทาอาการเจ็บปวดจากความเกลียดชังในใจจะไม่เป็นจริง
จุดสุดยอดที่ใกล้ถึงกลับค้างคา ไม่จบไม่สิ้นเสียที
เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ และ คสช.มีจุดยืนชัดว่าไม่ได้เข้ามาเพื่อภารกิจชำระล้างเพื่อตอบสนองความเกลียดชังของใคร
พล.อ.ประยุทธ์ประกาศครั้งแล้วครั้งเล่าว่า เข้ามาเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งของกลุ่มการเมืองที่ทำให้ประเทศเดินหน้าไม่ได้ ทำให้การบริหารไม่มีทางออก
ไม่ได้เข้ามาเพื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
นั่นหมายถึง "ความเป็นธรรม" ที่จะมอบให้ ไม่ได้หมายถึงการเลือกฝ่ายเหมือนที่เคยเป็นมา แต่ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" จะต้องได้รับด้วย
ทุกเรื่องราวที่เกี่ยวกับความยุติธรรมที่จะให้กับผู้คนทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรมที่จะดำเนินไปตามหลักการของนิติรัฐ
และนี่เองที่เป็นเรื่องที่ฝ่ายที่สุมความเกลียดชังไว้ ยากที่จะทานทน เหมือนหนามแหลมที่ปักคาในใจไม่ได้ถอนออก คอยแต่จะทิ่มแทงให้เจ็บปวดทุกครั้งที่ขยับตัว
การรอเวลาที่จะให้ "ความสุขถึงจุดสุดยอด" ที่มาไม่ถึงเสียที ได้แปรเปลี่ยนเป็นการสร้างแรงกดดันต่อรัฐบาลทหาร ซึ่งนับวันจะเกิดขึ้นถี่และแรงขึ้นเรื่อยๆ
ซึ่งสภาพการดังกล่าวกำลังท้าทายต่อ "อำนาจของกองทัพ" ว่าจะยืนหยัดในหลักการและเป้าหมาย เพื่อสร้างความปรองดอง อันหมายถึง จัดการให้ความยุติธรรมของประเทศเป็นไปในทางไม่เลือกข้างเลือกฝ่าย ซึ่งมีแต่ละสร้างความวุ่นวายอันเกิดจากความสิ้นศรัทธา
หรืออ่อนโอนไปตามแรงกดดันกลุ่มที่ยังร้องหา "ความสุขในจุดสุดยอด"