นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กสุริยะใส กตะศิลา วันที่ 4 กันยายน
จับตา! จุดพลิกผันคดีทุจริตจำนำข้าว
อัยการสูงสุด หรือ อสส.เปิดแถลงยังไม่สั่งฟ้องคดีทุจริตจำนำข้าว โดยอ้างว่าสำนวนจาก ปปช.ยังไม่สมบูรณ์ และจะตั้งคณะทำงานร่วม ระหว่าง อสส.กับ ปปช. ภายใน 14 วันเพื่อจัดทำสำนวนใหมี หาพยานหลักฐานเพิ่มเติม
จริงๆ เรื่องนี้ก็เป็นอำนาจของ อสส.มีสิทธิเห็นต่าง ปปช. ได้ หลายๆ คดีก็เกิดกรณีเห็นต่างเห็นแย้งกันอยู่บ่อยๆ ระหว่าง อสส. กับ ปปช.
ถึงขั้นตั้งคณะทำงานร่วมยังตกลงกันไม่ได้ก็มี จนในที่สุด ปปช.ต้องตัดสินใจยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วยตัวเอง
แม้เป็นอำนาจตามกฎหมายของอสส.แต่มีประเด็นที่ทำใหัผมฉุกคิดอยู่ไม่นัอยกระทั่งกังวลว่าสุดท้ายจะไม่สามารถจับคนโกงที่ทำนาบนหลังคนได้?
ผมแปลกใจที่ทาง อสส. บอกว่ายังไม่เห็นพยานหลักฐานที่ระบุว่า โครงการจำนำข้าวทุจริตทุกขั้นตอนตามสำนวน ปปช.ที่ผมแปลกๆ แปล่งๆ ก็คือดูเหมือน อสส.เห็นว่าสำนวนของ ปปช.ยังอ่อน จะไม่สามารถเอาผิดคุณยิ่งลักษผณ์และผู้เกี่ยวข้องในคดีทุจริตได้
บอกตรงๆ มันสวนทางกับข้อเท็จจริงที่สังคมรับรู้จากการตีแผ่ เปิดโปง ของสื่อมวลชน ของทีดีอาร์ไอ ของฝ่ายตรวจสอบที่พบว่าโครงการรับจำนำข้าวทุจริตกันโจ๋งครึม และเป็นมหากาพย์ ไม่ว่าจะเป็น ตังแต่ขั้นตอนโกงความชื้น โกงตาชั่ง เวียนเทียนข้าว ข้าวหาย สต๊อกลม ผิดหลักจำนำ มีนายหน้านอมินีการเมืองค้าข้าว เงินถึงมือชาวนาไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ฯลฯ
อสส.ท่านบอกยังไม่เห็น!
เอา หละยังไงตามกฎหมายก็คงต้องรอขั้นตอนคณะทำงานร่วมว่าสุดท้ายจะวงแตกได้ข้อ สรุปสั่งฟัองหรือไม่แน่นอนมันอาจเร็วเกินไปที่จะไปกล่าวหาอสส. แต่ ถ้อยแถลงวันนี้มันดูสวนอารมณ์ความรู้สึกของสังคม ท่านบอกว่าไม่ทำงานตาม
กระแส ถูกต้องและผมเห็นด้วยครับ
แต่ขบวนการทุจริตจำนำข้าว ไม่ใช่ "กระแส" แต่เป็นข้อเท็จจริง "เชิงประจักษ์" ไล่จับคนโกงข้าวกันอยู่ทุกวันครับ
ที่เป็นห่วงอีกไม่นัอยคือกรอบเวลากว่าเรื่องนี้จะถึงศาล และไต่สวนถูกผิด ไม่รู้ต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไร หวังว่า ขั้นตอน อสส.คงจะไม่ใช่จุดพลิกผันคดีนี้นะครับ
ถ้าทุจริตคอร์รัปชั่นจับได้แต่ปลาซิวปลาสร้อย
ก็เอวังประเทศไทยครับอย่าพูดเรื่องปฏิรูปให้ดูเท่ห์เสียเวลาครับ!