เจรจาพื้นที่ทับซ้อน ไทย-กัมพูชา

ปลัด กต. เผยญี่ปุ่นส่งสารยินดี "ธนะศักดิ์" นั่งรมว.กต. เผยรอหารือ "นายกฯตู่" เรื่องจัดคิวเดินสายพบต่างประเทศ ระบุคิวประชุมเวทีต่างประเทศระดับผู้นำ เริ่มที่อิตาลีเดือนหน้า ขณะรอหารือกับหน่วยงานเกี่ยวข้องก่อนฟื้นเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ไทย-กัมพูชา

เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ที่ประเทศญี่ปุ่น นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์หลังการหารือกับนายฟูมิโอะ คิชิดะ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการหารือทวิภาคีครั้งแรกหลังจากที่เกิดเหตุยึดอำนาจในประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ว่าตนได้เน้นกับฝ่ายญี่ปุ่นว่าช่วงเวลา 1 ปีข้างหน้า เป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับประเทศไทย ทั้งนี้ ในทางการเมือง เราต้องสร้างประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง และอยู่ระหว่างการดำเนินการตามแผนโรดแม็พที่ประกาศไว้ ซึ่งตนได้ยืนยันว่าไทยยึดมั่นในค่านิยมประชาธิปไตยและหวังจะนำพาประเทศกลับสู่ประชาธิปไตยที่ยั่งยืน นอกจากนี้ 1 ปีข้างหน้า ยังมีความสำคัญกับไทยในแง่เศรษฐกิจ ญี่ปุ่นมาลงทุนและค้าขายในไทยเป็นจำนวนมาก ภายใน 1 ปีนี้ ก็คงได้เห็นการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจหลายอย่างที่คั่งค้าง และทำไม่ได้ในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม รมว.ต่างประเทศญี่ปุ่นได้ฝากสารแสดงความยินดีผ่านตน ไปยัง พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ภายหลังจากท่านได้รับการแต่งตั้งเป็น รมว.ต่างประเทศคนใหม่ควบคู่ด้วยเมื่อ

ถามว่าหลังการหารือในวันนี้ (4 ก.ย.) ฝ่ายญี่ปุ่นมีท่าทีอย่างไร นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า ฝ่ายญี่ปุ่นค่อนข้างพอใจ เพราะไทยชี้แจงอย่างตรงไปตรงมา การที่รัฐบาลมีนโยบายปรับโครงสร้างเศรษฐกิจก็เป็นสิ่งที่ญี่ปุ่นควรจะยินดี เพราะนโยบายเหล่านี้ก็ทำเพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความโปร่งใส และให้โอกาสกับเอกชนต่างประเทศทุกประเทศ ทั้งนี้ ญี่ปุ่นได้ฝากให้ไทยพิจารณาปรับลดพื้นที่ของจังหวัดในญี่ปุ่นที่ไทยได้ห้ามนำเข้าสินค้า เนื่องจากหวั่นกลัวผลกระทบจากนิวเคลียร์ที่เมืองฟูกูชิมา จากเดิม 9 จังหวัด เหลือ 3 จังหวัด เพราะญี่ปุ่นยืนยันว่าขณะนี้สามารถจัดการปัญหาได้แล้ว

นายสีหศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (โอเอชซีเอชอาร์) กังวลต่อสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในไทย หลังมีการระงับการอภิปรายเกี่ยวกับประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชน ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ เมื่อวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา ว่า ไทยรับฟังความห่วงกังวลของโอเอชซีเอชอาร์เพราะให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย แต่กรณีที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาในขั้นตอนการขออนุญาต จึงอยากให้มองในภาพรวมว่าไทยยังเป็นสังคมที่มีเสรีภาพแสดงความเห็นและเคารพสิทธิมนุษยชน เพียงแต่มีความจำเป็นที่ต้องควบคุมสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงฯพร้อมจะพูดคุยกับโอเอชซีเอชอาร์เพื่อทำความเข้าใจกันต่อไปเมื่อถามถึงกำหนดการเดินทางเยือนต่างประเทศของนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ

นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อจัดทำแผนการเยือนอยู่ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของรมว.ต่างประเทศจะเดินทางไปร่วมงานประชุมอาเซียน-ไชน่า เอ็กซ์โป ที่นครหนานหนิง ในวันที่ 16 ก.ย.นี้ ซึ่งตามคำเชิญโดยตรงของจีน  ส่วนการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติซึ่งจะมีขึ้นในปลายเดือนนี้ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกานั้น ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา แต่คิดว่าเป็นโอกาสที่ดี เพราะนอกจากจะได้ขึ้นกล่าวถ้อยแถลงในนามประเทศไทย ก็ยังเป็นโอกาสที่จะได้พบกับรัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศต่างๆ รวมถึงเลขาธิการสหประชาชาติด้วย

นายสีหศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับกำหนดการเดินทางเยือนต่างประเทศของนายกรัฐมนตรี ก็ต้องจะหารือกับนายกรัฐมนตรีก่อน โดยดูความสะดวกของทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งนี้ หลังจากหารือเรื่องแผนการเดินทางร่วมกับรมว.ต่างประเทศแล้ว ก็จะนำเสนอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ขณะที่การประชุมระดับผู้นำในกรอบพหุภาคีนั้น มีกำหนดการแรกคือการประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป(อาเซม) ที่นครมิลาน ประเทศอิตาลี ในกลางเดือน ต.ค.นี้

ทั้งนี้ นายสีหศักดิ์ กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงพลังงานระบุว่ากำลังเตรียมจัดตั้งคณะทำงานเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ภายหลังที่มีการหารือกับทางการกัมพูชาในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องหารือกันภายใน และหารือภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อหาฉันทามติร่วมกันเสียก่อน  และต้องมีการยืนยันท่าทีร่วมเกี่ยวกับเอกสารบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) พ.ศ.2544 ระหว่างรัฐบาลไทยกับกัมพูชา ว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อน เพราะในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้มีมติยกเลิกเอ็มโอยูดังกล่าว แต่ไม่มีการแจ้งไปยังทางการกัมพูชา ซึ่งขณะนี้หลายคนเห็นว่าเอ็มโอยูฉบับนี้เป็นพื้นฐานที่ดีสำหรับการเจรจา แต่ในส่วนของเส้นทั้งหลายเป็นสิ่งที่ต้องไปเจรจากันต่อไป การเจรจาในเรื่องนี้จึงต้องใช้เวลาเพราะต้องให้ได้ท่าทีร่วมกันของฝ่ายไทยก่อน