3 ก.ย.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 4 ก.ย.นี้ จะเป็นวันครบกำหนด 30 วันของการได้รับคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว
จนก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐกว่า 500,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2542 มาตรา 10 โดยป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 2 ประเด็นคือ กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วย ป.ป.ช. มาตรา 123/1 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจ โดยมิชอบ
นายวันชัย รุจนวงศ์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีต่างประเทศและโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ขณะนี้นายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาสำนวนคดีดังกล่าว ซึ่งหากอัยการสูงสุดพิจารณาเสร็จสิ้นเมื่อใด จะนัดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
สำหรับมาตรา 10 ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรง ตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2542
ระบุว่า ให้อัยการสูงสุดยื่นฟ้องคดีภายใน 30 วันนับแต่วันได้รับเรื่อง เว้นแต่ภายในระยะเวลาดังกล่าวอัยการสูงสุดมีความเห็นว่าเรื่องที่ส่งมานั้น ยังมีข้อไม่สมบูรณ์และได้แจ้งข้อหาไม่สมบูรณ์นั้นไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช.
ทั้งนี้กรณีดังกล่าวเป็นกรอบระยะเวลาแบบเร่งรัดเท่านั้นเพื่อให้การพิจารณา
คดีเป็นไปด้วยความรวดเร็ว แต่ถ้าหากเกินกรอบระยะเวลาที่กำหนด อัยการสูงสุดก็ยังสามารถพิจารณาสั่งฟ้องได้จนกว่าคดีจะหมดอายุความดังกล่าว โดยยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาฯได้เลย ไม่จำเป็นต้องมีตัวจำเลยมาฟ้องแต่อย่างใด เพียงแต่ต้องระบุแหล่งที่อยู่ของจำเลยให้ชัดเจน