‘จาตุรนต์’ ขอเลื่อนให้การศาลทการ เป็นวันที่ 15 ต.ค.

‘จาตุรนต์’ ขอเลื่อนให้การศาลทการ เป็นวันที่ 15 ต.ค.


‘จาตุรนต์’ ขอเลื่อนให้การศาลทการ เป็นวันที่ 15 ต.ค. เหตุนัดฉุกเฉิน

 เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ก.ย. ที่ศาลทหารกรุงเทพฯ กรมพระธรรมนูญ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย นายนรินทพงศ์ จินาภักดิ์ ทนายความ เดินทางเข้าให้คำให้การต่ออัยการศาลทหารว่า จะยอมรับหรือปฏิเสธข้อกล่าวหา ในคดีหมายเลขดำ 31ก./2557 ที่อัยการศาลทหาร ได้ยื่นฟ้องนายจาตุรนต์ เป็นจำเลยในรวม 3 ข้อหา ได้แก่ ความผิดฐานขัดคำสั่ง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) , กระทำการยุยง ปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบหรือละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 (2)(3) และ พ.ร.บ.ว่าการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (3) โดยมีโทษจำคุกรวม 14 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ทีมทนายความได้ยื่นประกันตัวชั่วคราวในวงเงิน 400,000 บาท แล้วศาลได้อนุญาตให้ประกันตัว โดยมีเงื่อนไขห้ามออกเดินทางออกนอกประเทศ และห้ามชุมนุมทางการเมือง หรือก่อให้เกิดความปั่นป่วน

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศบริเวณหน้าศาลทหาร ตั้งแต่ช่วงเช้า มี น.ส.ฐิติมา ฉายแสง อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นน้องสาวของนายจาตุรนต์ พร้อมกับมีประชาชนบางส่วน เดินทางมามอบดอกกุหลาบให้กำลังใจนายจาตุรนต์ด้วย

 เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ศาลทหารกรุงเทพฯ กรมพระธรรมนูญ นายนรินทพงศ์ จินาภักดิ์ ทนายความนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวภายหลังเข้าพบศาลทหารว่า ตนและนายจาตุรนต์ เพิ่งจะได้รับหมายนัดอย่างกระชั้นชิด เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ไม่มีผู้เซ็นรับหมายนัดดังกล่าวด้วย จึงไม่มีเวลาในการดำเนินการ รวมถึงติดภารกิจว่าความที่ศาลอื่นก่อนแล้ว จึงไม่สามารถทำหน้าที่ว่าความให้นายจาตุรนต์ในวันนี้ได้ 

 นายนรินทพงศ์ กล่าวต่อว่า อีกทั้งคดีนี้เป็นคดีเกี่ยวกับความมั่นคง มีโทษสูง มีข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายในเรื่องเขตอำนาจศาล ซึ่งรับฟ้องพิจารณาพิพากษาหรือลงโทษจำเลยซึ่งเป็นพลเรือนจะถูกดำเนินคดีในศาลทหาร นายจาตุรนต์จึงต้องมีการปรึกษาก่อนให้การในประเด็นต่างๆ กับทนายความอย่างละเอียด ดังนั้นวันนี้จึงได้มายื่นคำร้องขอนัดคำให้การออกไป ซึ่งศาลก็ได้ให้ความกรุณาเลื่อนนัดสอบคำให้การเป็นวันที่ 15 ต.ค. ในเวลา 08.30 น.

 ด้านนายจาตุรนต์ กล่าวว่า ได้รับหมายอย่างไม่เป็นทางการและกะทันหัน อีกทั้งทนายความก็ติดภารกิจว่าความคดีอื่น ซึ่งตนได้ตั้งทนายความมาเพียงคนเดียว หลังจากนี้ จึงเตรียมตั้งทนายความเพิ่มเติม ทั้งนี้เนื่องจากคดีนี้มีถึง 3 ข้อหา มีความซับซ้อนและเกี่ยวข้องกับความมั่นคง โดยเฉพาะข้อหา ฝ่าฝืนคำสั่ง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งเกิดก่อนที่จะมีคำสั่งให้นำผู้กระทำผิดมาดำเนินการที่ศาลทหารทั้งหมด จึงมีข้อสัยว่า คดีใดบ้างที่อยู่นอกเหนือจากอำนาจของศาลทหาร เพราะบางคดี ตนเห็นว่าควรขึ้นศาลพลเรือน อีกทั้งคดีที่มีอัตราโทษสูง รวมกันกว่า 14 ปี จึงต้องหารือกับทนายความเพื่อหาข้อสรุปและความชัดเจนอีกครั้ง เพื่อเตรียมการสู้คดีให้ดีที่สุด

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์