ชวน ย้ำ คนไทยต้องสามัคคี แนะยึดเหตุการณ์เชียงใหม่เป็นบทเรียน
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 31 มีนาคม 2549 19:42 น.
ชวน หวั่นความรู้สึกต่อต้าน-แบ่งแยกรุนแรง ย้ำ คนไทยต้องสามัคคี แนะให้ดูเหตุการณ์ที่เชียงใหม่เป็นบทเรียน ระบุ เป็นแค่เพียงกลุ่มคนส่วนหนึ่งเท่านั้น กรีดไม่โกรธ - ติดใจ เพราะเป็นภารกิจที่ถูกสั่งให้ทำ ลั่นคนใต้หากไม่ชอบใครยังไม่ทำแบบนี้ เตรียมกลับ จ.ตรัง ยันไม่มีการเกณฑ์คนมารับเด็ดขาด เชื่อ การเมืองระอุหลังเลือกตั้ง เหตุจากความไม่พอใจของปชช.
วันนี้ (31 มี.ค.) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการชุมนุมประท้วงการปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ จ.เชียงใหม่ ว่า ตนไม่ได้รับบาดเจ็บ เพราะมีประชาชนส่วนหนึ่งมาล้อมเอาไว้ไม่ให้คนมาทำอะไร รู้สึกซาบซึ้งน้ำใจ และถือโอกาสขอบคุณประชาชนที่ห่วงใย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้โกรธแค้นอะไร เพราะดูแล้วรู้ว่า เป็นภารกิจที่เขามอบมาให้ทำ หากไม่เตรียมคงไม่เกิดถึงขั้นนั้น
สิ่งที่เราห่วงต่อไป คือ ความรู้สึกต่อต้าน จึงขอเรียนว่า อย่าได้ถือเรื่องนี้เป็นเรื่องทำให้เกิดความรู้สึกเจ็บแค้นขึ้นในภาคใต้ หรือภาคอื่นๆ ขอให้ถือว่าพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเป็นเพียงคนส่วนหนึ่ง และมีตัวคอยสนับสนุน หรือยุแหย่อยู่ข้างหลัง อย่าไปมองว่าเป็นความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ในเชียงใหม่ หรือคนส่วนใหญ่ในภาคเหนือ เหนือสิ่งอื่นใดคนไทยต้องมีความรักสามัคคีกัน นายชวน กล่าว
นายชวน กล่าวว่า คนแถวบ้านตน เขาไม่ทำกันแบบนี้ หากพอใจ ไม่พอใจ จะไปแกล้งด้วยวิธีการเอาเครื่องเสียงเปิด เพื่อไม่ให้เขาพูดได้ ดังนั้น ครั้งนี้จะเป็นบทเรียนสำหรับคนที่จะทำอะไรต้องระมัดระวัง มันกระทบไปถึงภาพลักษณ์ของพื้นที่ด้วย และคนส่วนใหญ่ในพื้นที่ เขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง เขาก็จะรู้สึกเสียใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า เป็นเพราะพื้นที่บ้านเกิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี จึงมีความรุนแรง นายชวน กล่าวว่า ไม่ทราบจริงๆ แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ควรทำ ถึงจะเป็นบ้าน พ.ต.ท.ทักษิณ หรือบ้านใครก็ตาม คนที่รักชอบ ไม่ชอบ มีกันทั้งนั้น คนจะทำก็ควรคิดหน้าคิดหลังให้ดี เมื่อทำไปแล้ว ผลดีไม่ได้เกิดขึ้น ก็กลับเป็นผลเสีย พรรคประชาธิปัตย์ ก็ไปทั่วประเทศ จ.เชียงใหม่ ก็เป็นพื้นที่หนึ่ง แต่อาจไปจัดหลังที่ชาวบ้านในสีลมไปต่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อาจทำให้เกิดความรู้สึก คนจัดเรื่องนี้ก็อาจคิดเพื่อช่วย แต่ว่าไม่เป็นผลดี
เมื่อก่อนไม่ถึงขนาดนี้ ผมก็เป็นนายกฯจากภาคใต้ ใครไปภาคใต้แล้วจะไปถึงขั้นนี้ เขาก็ไม่ทำกัน แต่อยู่ที่ผู้หลักผู้ใหญ่ต้องไม่เปิดช่องสร้างเงื่อนไขให้เกิดขึ้น และบรรดาผู้ใกล้ชิดหรือหวังดีก็อย่าทำอะไรที่เกินขอบเขตที่ควรกระทำ อย่างไรก็ตาม ผมจะกลับ จ.ตรัง ในวันที่ 1 เม.ย.โดยได้โทรศัพท์ไปแล้วว่า ไม่ต้องมารับที่สนามบินเป็นอันขาด ไม่ดี และไม่เคยที่จะเกณฑ์คนมารับ เสียเวลาคนอื่น นายชวน กล่าว
ด้าน นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า พรรคประชาธิปัตย์ประเมินว่า หลังการเลือกตั้งจะมีการบิดเบือนกฎหมายเพื่อเปิดประชุมสภา ให้มีการเลือกนายกรัฐมนตรี เพื่อจะได้มีอำนาจบริหารประเทศต่อไปได้ และประเมินว่า ในการเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายน จะมีการทุจริตหลายรูปแบบ ทั้งตั้งแต่เริ่มที่มีการจ้างพรรคเล็ก การซื้อเสียง การใช้อำนาจรัฐ ซึ่งจะมีเป้าหมายในเขตที่มีผู้สมัครเพียงคนเดียว ซึ่งล่าสุด มี 272 เขต โดยใน กทม.มี 20 เขต ภาคกลางในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสงคราม สุพรรณบุรี และสระแก้ว และในภาคใต้ 35 เขต เพื่อให้ได้คะแนนเสียงเกิน 20% ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์จะจับตาดู ทั้งนี้ เชื่อว่า หลังการเลือกตั้ง ความไม่พอใจของประชาชนทั่วประเทศที่พบความไม่สุจริตจะมีมากขึ้น เมื่อรวมกับเรื่องการจ้างพรรคเล็กลงสมัคร ก็จะเพิ่มดีกรีความร้อนแรงทางการเมืองมากขึ้น