ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีโพสต์เฟซบุ๊ค Panadda Diskul เมื่อเช้าวันที่ 23 สิงหาคม ว่า
พบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)บางแห่ง ใช้จ่ายเงินทองฟุ่มเฟือยเหมือนกับเป็นเงินของครอบครัวตนเอง มีคนบอกว่าตัวนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(นายกฯ อบจ.)บางแห่ง นั่งเครื่องบินชั้นธุรกิจไม่พอ ต้องนั่ง First Class ประเภทของ Wine ที่ดื่มราคาขวดละเป็นแสน แต่เรียกหากะปิน้ำปลาบนเครื่อง จนเลขาคู่ใจนั่งอยู่ชั้น Y ต้องมานั่งคุกเข่ารับคำสั่งที่ข้างเก้าอี้ชั้นหนึ่งเป็นชั่วโมง หนักกว่านั้นยังให้เพื่อนรักซื้อบ้านพักแทนชื่อตนที่ทวีปยุโรปไว้สำหรับไปพักผ่อน ซึ่งตนและทุกคนที่ได้ฟังรู้สึกตกใจว่าเป็นเพียง อปท. แล้วทำได้ขนาดนี้ แล้ว Politicians ระดับชาติจะขนาดไหน
“ถ้าอยากใช้ชีวิตฟุ้มเฟื่อยไม่อายประชาชน น่าออกไปดำรงสัมมาชีพส่วนตัว อย่ามาเป็นนักการเมืองหรือรับราชการให้เสื่อมเสียเกียรติภูมิ สถานบันข้าราชการไทย” มล.ปนัดดา ระบุ
จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงการโพสต์ดังกล่าวว่าขนาดผู้นำท้องถิ่นยังทำตัวฟุ่มเฟื่อย แล้วกับผู้นำประเทศ รัฐมนตรี ถ้าฟุ่มเฟื่อยมองอย่างไร
ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า เป็นอะไรที่จะต้องไปด้วยกันให้ได้ ทั้งอบจ.อปท.เทศบาล จังหวัด หรือระดับประเทศ ต้องยึดมั่นในความไม่ฟุ่มเฟื่อย ไม่เช่นนั้นประเทศชาติจะไปไม่รอด เชื่อว่าเจตนาโดยตรงของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ที่ย้ำตลอดในเรื่องความพอเพียง ความประหยัด และความจริงใจเป็นเรื่องสำคัญ
เมื่อถามว่าคิดว่า การมีรัฐบาลที่มาจากข้าราชการประจำโดยเนื้อแท้ การบริหารราชการแผ่นดินน่าจะดีกว่าที่ผ่านมาเป็นนักการเมืองหรือไม่
ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า ข้าราชการประจำหากมองดูจะถือเรื่องระเบียบวินัย ความถูกต้องตามครรลองครองธรรม ถือหลักผู้บังคับบัญชา และหัวใจคือการดูแลพี่น้องประชาชน ดังนั้นถ้าข้าราชการคิดได้ตามกรอบนี้ ระบบราชการจะเกิดความเรียบร้อยและเป็นมาตรฐานนำไปสู่ตามกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ
เมื่อถามว่ายืนยันข้าราชการดีกว่า ม.ล.ปนัดดา ตอบว่าไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะยืนยัน เป็นเพียงการเสนอกรอบความคิดเท่านั้น และนักการเมืองที่ดีก็มีมากมายที่เข้ามาบริหารประเทศ และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับนักการเมืองที่ทำแบบนั้นไม่ได้ และพยายามโคลนนิ่งให้เป็นนักการเมืองที่ประชาชนรักและศรัทธา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ครม.ที่มาจากข้าราชการประจำ ที่ไม่มีประสบการณ์ในการบริหารประเทศมาก่อน
นอกเหนือจากระบบปกติคิดว่าจะสามารถทำหน้าที่ได้เหมือนกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งได้หรือไม่ ม.ล.ปนัดดา ตอบว่าบริบทของข้าราชการดูถึงการทำงานเป็นเรื่องระเบียบพิธี เรื่องที่ได้รับการปลูกฝังตั้งแต่เข้ามารับราชการ จนกระทั้งเกษียณอายุ ส่วนนักการเมืองมีความหลากหลาย หากประสานกันได้ด้วยดีทั้งสองส่วน ประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นคือประเทศไทยและประชาชน เมื่อถามว่า มีการมองว่าจะเป็นบทพิสูจน์นายกฯที่มาจากข้าราชการประจำ ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่าที่ผ่านมาเราก็เคยมีผู้บริหารที่มาจากข้าราชการประจำ ตนมองว่าเป็นเรื่องปัจเจกบุเคคลที่จะประพฤติปฎิบัติตนให้เป็นที่ไว้วางใจ และศรัทธากับประชาชนมากกว่า