"สนธิ"ยกหลักฐานยันไม่เคยหมิ่นฯ -ทนายความลั่นฟ้องกลับแน่
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 31 มีนาคม 2549 15:05 น.
http://www.managerradio.com/Radio/DetailRadio.asp?program_no=1026&mmsID=1026%2F1026%2D1267%2Ewmv&program_id=3907
ฟังคำสัมภาษณ์ คมชัดลึก ของนายสนธิ
สนธิ พร้อมทนายความ ยกหลักฐานยืนยันไม่เคยหมิ่นฯอย่างที่ถูกใส่ความ ระบุชัดถูกตัดถอนคำพูด คมชัดลึกเองก็ยอมรับว่าเป็นคำสัมภาษณ์โดยสรุป สุวัตร ชี้ เหตุถูกโยงให้เป็นการเมือง โดยหวังสร้างสถานการณ์ให้รุนแรงเหมือน 6 ตุลาฯ ลั่น ใครคิดสร้างหลักฐานเท็จ พร้อมเดินหน้าชนฟ้องร้องกลับทุกราย ตั้งข้อสังเกตตำรวจไม่โปร่งใส ตั้ง เพื่อนรักแม้ว" เป็นหัวหน้าสอบสวนแบบฟ้าแลบ ในขณะที่คดีฟ้องทักษิณหมิ่นฯ กลับเงียบฉี่ ด้าน สนธิ ยันเห็นใจคมชัดลึกถูกบีบ พร้อมยกย่องเป็นสุภาพบุรุษ
ที่สำนักงานเครือผู้จัดการ บ้านพระอาทิตย์ เมื่อเวลา14.00น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการและหนึ่งในแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมด้วยนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ เปิดแถลงข่าวว่า จากกรณีที่นายสนธิ ถูกกล่าวหาว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ กำลังถูกขยายผลให้เป็นผลร้ายและรุนแรงในบ้านเมือง จนล่าสุดมีการระดมกันออกมา ไม่ว่าจะเป็น 9 นายพล และระดม นายกฯอบต. ตำรวจ ผู้ว่าฯ ฯลฯ ไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายสนธิ จะเห็นได้ว่าเป็นวิธีการแบบเดิมๆ ที่สมัยก่อนขอให้ศาลยโสธร ออกหมายจับ แต่ศาลไม่ออกให้เพราะเห็นว่าข้อความที่พูดไม่ได้หมิ่นฯ
นายสุวัตร กล่าวต่อว่า กรณีนี้สืบเนื่องจากข่าวที่หนังสือพิมพ์คมชัดลึกเสนอ ซึ่งเราเห็นใจคมชัดลึกเป็นอย่างมากที่ถูกกดดันเมื่อานนี้โดยมีขบวนการของกลุ่มคนไปล้อมบีบคั้นให้กระทำการในสิ่งที่ไม่ใช่ความประสงค์ของคมชัดลึก ทั้งที่ได้ประกาศแสดงความรับผิดชอบไปแล้ว ข่าวที่ลงคำสัมภาษณ์นั้นความจริงแล้วเขาตกไปนิดเดียวเท่านั้นเอง เขาลงบอกว่า เอ็งส่งกฎหมายให้ในหลวงลงพระปรมาภิไธย พอพระองค์ท่านลงมาแล้วเกิดความผิดพลาด นายกฯต้องลาออก แสดงความรับผิดชอบ ถ้าไม่ยอมลาออก ต้องบอกประชาชนทั้งประเทศว่าให้ในหลวงลาออก
ความจริงที่ให้สัมภาษณ์ก็คือ เอ็งส่งร่างพระราชกฤษฎีกาให้ในหลวงทรงลงพระปรมาภิไธย ในหลวงก็ลงให้ เมื่อลงให้แล้วถ้าผิดพลาดเอ็งต้องรับผิดชอบสิ ถ้าเอ็งไม่ยอมรับผิดชอบ เอ็งก็ต้องบอกประชาชน หรือให้ในหลวงลาออก? ลักษณะเช่นนี้เป็นคำถาม และข้อความเช่นนี้ไม่ใช่ข้อความที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และทีผ่านมามีการพยายามเอาคดีหมิ่นฯมาดำเนินการกับคุณสนธิตั้งแต่ก่อนนี้แล้วจนถึงบัดนี้
นายสุวัตร กล่าวต่อว่า เรื่องนี้จะถูกขยายผลไป ดูอย่างกรณี 6 ตุลาฯ 2519 ที่มีภาพข่าวแล้วกระบวนการต่างๆก็ไม่พอใจบุกล้อมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทำให้เกิดม็อบประทะม็อบ กรณีนี้ก็เช่นเดียวกัน ใครก็ตามที่ทำเรื่องนี้พยายามโยงไปสู่ความรุนแรง ซึ่งไม่ใช่หลักที่คุณสนธิทำ ไม่ใช่อหิงสา
กรณีของหนังสือพิมพ์คมชัดลึกเขาผิดพลาดเขาก็ได้แสดงความรับผิดชอบไปแล้วตามคำแถลงการณ์เมื่อวันที่ 28 มี.ค.2549 เขาถูกบีบอย่างหนักจนต้องออกแถลงการณ์อีกอันหนึ่งซึ่งจะเห็นได้ว่าไม่เหมือนกัน แต่ถามว่าเข้าใจไหม เข้าใจ คุณสนธิก็เข้าใจคนที่อยู่ในภาวะนั้น จริงๆเขาสามารถจะชี้แจงตามคำแถลงได้ แต่คนจะหาเรื่องถึงแถลงอีกเขาก็หาเรื่องได้ และเรื่องนี้อยากจะเรียนให้สื่อมวลชนเพื่อส่งให้พี่น้องประชาชนทราบว่า กรณีเรื่องหมิ่นฯ ท่านนายกฯได้เคยพูดหลายครั้งหลายตอน เช่น ถ้าผมไม่จงรักภักดีแล้วผีที่ไหนจะจงรักภักดี ครั้งที่สอง ถ้าในหลวงทรงกระซิบที่ข้างหูผมว่าทักษิณออกเถอะ ผมจะรีบออกทันที ซึ่งมีคนไปแจ้งความหลายครั้ง แต่สตช.กลับไม่เคยดำเนินการเรื่องนี้เลย จะเห็นได้ว่าคราวนี้สตช.ทำตัวไม่เป็นกลาง นี่จะเป็นปัญหาที่ก่อให้เกิดความรุนแรงในบ้านเมือง
ในฐานะทนายความฝากไปที่ผบ.ตร. และตำรวจ ว่า เรื่องนี้หากกรรมการไม่เป็นกลาง ก็ไม่มีทางที่คุณสนธิจะได้รับความเป็นธรรม และเราจะไม่ยอมให้ตำรวจเล่นงานฝ่ายเดียว ใครก็ตามที่สร้างพยานเท็จเราจะฟ้องกับและดำเนินการในชั้นศาลทันที แล้วตอนนี้มีข่าวว่าจะออกหมายจับ ขอเรียนว่าที่แถลงโกหก ตำรวจไม่มีสิทธิ์ จะต้องทำเรื่องขออนุญาตศาลออกหมายจับ คดีนี้ผบ.ตช. ตั้งพล.ต.ท.ชลอ ชูวงศ์ ผู้ช่วยผบ.ตร. ซึ่งเป็นเพื่อนคุณทักษิณเป็นหัวหน้าชุดสอบสวน ตามที่มติชนลงข่าวเมื่อเช้านี้ การที่ตั้งเพื่อนรักเป็นหัวหน้าชุดสอบสวน ชี้ให้เห็นว่านี่คือความไม่เป็นธรรม ชี้ให้เห็นว่ามีเจตนาที่จ้องจะใส่ร้ายหรืออาจมีการสร้างพยานหลักฐานเท็จ ดังนั้นเรื่องคมชัดลึกกับเรื่องหมิ่นฯนี้ เป็นเรื่องการเมือง ถูกโยงไปเป็นเรื่องการเมืองแล้วนายสุวัตร กล่าว
นายสุวัตร กล่าวต่อว่า เป็นเรื่องการที่ผู้ที่ทำต้องการให้เกิดความรุนแรงขึ้น อาจเกิดมีการนองเลือด เมื่อวานก็เห็นข่าวแล้วว่าพรรคประชาธิปัตย์เปิดปราศรัยก็มีกลุ่มบุคคลเข้าไปบุกสร้างความวุ่นวายในรั้วมหาวิทยาลัย โดยตร.ภาค 5 ไม่ได้ดำเนินการป้องกันเหตุใดๆ แสดงว่าสตช. ไม่ได้ปกป้องอีกฝั่งหนึ่ง ทำตัวรับใช่อีกฝั่งเสมอมา
ดังนั้น ผมจึงอยากเรียนว่า ในส่วนของเราเราจะไม่หยุดนิ่ง แม้ตำรวจจะไม่ช่วยหรืออยูฝั่งเรา ทันทีทีมการแจ้งความหรือดำเนินการเรื่องสิทธิเสรีภาพของคุณสนธิเมื่อไหร่ ผมจะยื่นฟ้องศาลทันที เพราะตอนนี้องค์กรที่หวังพึ่งได้มีแต่ศาลยุติธรรมและศาลปกครองนายสุวัตร กล่าว
ด้านนายสนธิ กล่าวว่า ถ้าเราอ่านคำประกาศของคมฯ เราจะเห็นได้ชัด ในข้อความว่า หนังสือพิมพ์คมชัดลึกและผู้สื่อข่าวที่รายงานข่าวนี้ได้ยืนยันว่าข้อความทีลงตีพิมพ์นั้นตรงกับคำให้สัมภาษณ์ขอนายสนธิโดยสรุป ก็คือว่าเขาสรุปมา ฉะนั้นในเอกสารที่แจกไปยังสื่อมวลชนนั้น อยากให้อ่านตั้งแต่ต้น
จากนั้นนายสนธิ ได้อ่านข้อความในเอกสารที่แจกจ่ายให้กับสื่อมวลชน ซึ่งมีการเปรียบเทียบข้อความที่ลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์และ ข้อความเต็มๆที่แกะเทปคำให้สัมภาษณ์ ดังนี้..
ข้อความที่ผิดพลาดและไม่ครบถ้วนจาก
หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2549
ที่อ้างว่ามาจากคำสัมภาษณ์ของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล
เอ็งส่งกฎหมายให้ในหลวงลงพระปรมาภิไธย พอพระองค์ท่านลงมาแล้วเกิดความผิดพลาด นายกฯต้องลาออก แสดงความรับผิดชอบ ถ้าไม่ยอมลาออก ต้องบอกประชาชนทั้งประเทศว่าให้ในหลวงลาออก
คำสัมภาษณ์คำต่อคำของนายสนธิ ลิ้มทองกุล
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2549 ณ บริเวณ สะพานมัฆวานรังสรรค์
สนธิ: นายกไม่ลาออก อย่างที่ผมพูดไง กฤษฎีกาที่นายกรับสนองพระบรมราชโองการ ศาลปกครองบอกแล้วว่าผิด ไม่ชอบด้วยกฎหมายทุกประการ แล้วตัวเองไม่ยอมลาออกจะให้ในหลวงออกเหรอ?
มันต้องมีคนรับผิดชอบใช่ไม๊?
ถ้าทักษิณยังหน้าด้านบอกว่าตัวเองไม่รับผิดชอบเนี่ยะ แสดงว่าต้องการให้ในหลวงรับผิดชอบใช่ไม๊?
แน่นอน แน่นอน ก็คือเอ็งส่งร่างพระราชกฤษฎีกาให้ในหลวงทรงลงพระปรมาภิไธย ในหลวงก็ลงให้ เมื่อลงให้แล้วถ้าผิดพลาดเอ็งต้องรับผิดชอบสิ ถ้าเอ็งไม่ยอมรับผิดชอบ เอ็งก็ต้องบอกประชาชน หรือให้ในหลวงลาออก?
ผู้สื่อข่าว:เราจะไม่มีการยื่นหนังสือ อะไรหรือ?
สนธิ: เราไม่ยื่น เราจะใช้พลังประชาชนตรงนี้หล่ะ ให้สังคมไทยได้เห็น
นายสนธิ กล่าวต่อว่า ตนเห็นใจเขาและไม่โทษเขา และเขาเป็นสุภาพบุรุษมากในการแสดงจุดยืนครั้งแรก แต่เขาน่าเห็นใจที่ถูกกดดัน ผมถือว่าการไปกดดันด้วยวิธีการนี้ เป็นสุดยอดของการคุกคามสื่อ ซึ่งตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเกิด ผมได้ให้วีซีดีแล้วไปดูได้ จะเห็นว่าตรงตามที่ผมพูด
ประเด็นนี้ถูกขยายความ เอาคนมาเพื่อทำกรณีเดียวกับคมฯ คำถามก็คือว่า ถ้ามีการบิดเบือนแบบนี้แล้วสร้างสถานการณ์แบบ 6 ตุลาฯ นายทักษิณ ชินวัตร ต้องเป็นคนรับผิดชอบ เพราะผมเชื่อว่า เรื่องนี้คนที่อ่านทั้งหมดจะเข้าใจและจะเห็นได้ชัดแม้กระทั่งแถลงการณ์ครั้งที่สองก็ระบุชัดว่าโดยสรุปจริงนายสนธิ กล่าว และว่า กระบวนการนี้เกิดขึ้นแล้ว และเป็นกระบวนการฝ่ายรัฐบาลและใช้ตำรวจเป็นเครื่องมือ โดยทีตำรวจก็ยินดีที่จะร่วมมือ
นายสนธิ กล่าวต่อว่า ในขณะที่ ที่ผ่านมายื่นให้ตรวจสอบนายทักษิณกลับเงียบ แต่กรณีนี้กรณีที่เชียงใหม่ เป็นกรณีที่ยืนยันสุดท้ายว่าสังคมไทยนี้แย่ไปแล้ว เพราะว่า ความยุติธรรมที่ผมไม่ได้รับเลยและถูกกลั่นแกล้ง และเชื่อว่าพี่น้องส่วนใหญ่ก็เห็นในผม ในขณะที่ทักษิณก็จะใช้วิธีบิดเบือนในลักษณะที่สื่อได้ข้อมูล เพื่อปลุกปลั่นให้ประชาชนที่ไม่ได้รับทราบข้อเท็จจริง เพื่อให้เกิดเหตุขึ้น เหมือนที่เชียงใหม่ ผมจำเป็นต้องชี้แจงว่า วิกฤตบ้านเมืองเราวันนี้มันหนักหนาเกินกว่าจะเยียวยา