แม้ความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาจะกระเตื้องขึ้น แต่ตัวเลขประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจตลอดปี 2557 จะโตไม่เกินร้อยละ 2 จึงเป็นภาระกิจที่ท้าทายของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ในการปฏิรูปเศรษฐกิจทั้งระบบและแก้ไขปัญหาค่าครองชีพ ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการมากที่สุด
3 เดือนเต็มที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บริหารประเทศในฐานะของ หัวหน้า คสช. สร้างความพอให้กับทั้งภาคเอกชนและประชาชน สะท้อนได้จากผลสำรวจในด้านต่างๆ ผลสำรวจกรุงเทพโพลประชาชนพอใจการปฏิบัติหน้าที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ ให้คะแนน 7.76 และคะแนนความเด็ดขาดได้มากถึง 8.39 ในส่วนผลสำรวจเอกชนต่างชาติชาวเอเชีย 5 ชาติ 600 คน ทั้งมาเลเซีย จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เชื่อมั่นนโยบายเศรษฐกิจภายใต้ คสช.สูงถึงร้อยละ 88.2 แต่นักธุรกิจต่างชาติหวังว่ารัฐบาลภายใต้ คสช. บริหารประเทศไม่เกิน 2-3 ปี เพราะอาจกระทบความเชื่อมั่นของต่างชาติ
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นด้านต่างๆจากหน่วยงานเศรษฐกิจ ทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมต่างปรับสูงขึ้นมากในรอบหลายๆเดือน แต่หลังจากนี้ในฐานะนายกรัฐมนตรี ความคาดหวังของประชาชนคือต้องการให้แก้ไขปัญหาปากท้องเป็นอันดับแรกๆ จากนี้ไปคือการจัดทัพคณะรัฐมนตรี ซึ่งเอกชนต้องการได้รัฐบาลที่จะวางนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจในระยะยาวและในอนาคตรัฐบาลที่จะมาจากการเลือกตั้ง เอกชนก็หวังว่าต้องโปร่งใส ปราศจากคอร์รัปชั่น
คณะรัฐมนตรีใหม่ภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ มีภาระกิจท้าทายหลายด้าน แต่นโยบายในการผลักดันเศรษฐกิจและวางรากฐานให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเข้ามาสานต่อ ซึ่งจะเป็นความหวังของทั้งภาคเอกชนที่ต้องการเพิ่มขีดความสามารถในด้านการแข่งขันและประชาชนก็หวังจะมีความมั่นคง มีงาน มีรายได้ เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพ เลี้ยงครอบครัว