ลั่นไม่เกรงกลัว คสช.หรือรัฐบาลอีกต่อไปแล้ว ชาวสวนยื่นหนังสือถึงนายกฯป้ายแดง เร่งแก้ปัญหาราคายางใน 7 วัน หากทำไม่ได้เจอระดมพลเคลื่อนไหวใหญ่
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 21 ส.ค. ตัวแทนเกษตรกรชาวสวนยางพาราในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ในนามแนวร่วมเกษตรกรชาวสวนยางพารา บ้านส้อง และพันธมิตร นำโดยนายไพโรจน์ ฤกษ์ดีมีอาชีพเป็นเกษตรกร และทนายความ เดินทางเข้ายื่นหนังสือเปิดผนึกผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานีถึง พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะ คสช.และว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ เรียกร้องให้แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนยาง อันเนื่องมาจากราคาตกต่ำอย่างต่อเนื่อง
นายไพโรจน์ กล่าวว่าอยากให้เร่งช่วยเหลือแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ เป็นวาระเร่งด่วนที่สุด พร้อมรอคำตอบภายใน 7 วัน หากไม่ได้รับการเหลียวแลจะรวมตัวเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ ขอยืนยันว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้มาด้วยความบริสุทธิ์ใจ เนื่องจากเป็นความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรจริง ๆ ไม่มีเกมการเมืองใด ๆ แอบแฝงอยู่เบื้องหลัง หรือพรรคการเมืองใดมาหนุนหลัง
“ตอนนี้ยางพาราแพร่กระจายไปภาคอีสาน ภาคตะวันออก และภาคเหนือ หากแก้ปัญหาทำได้จะเป็นการช่วยเหลือเกษตรได้ทั้งประเทศ หากไม่ทำอะไรเกษตรกร และมวลชนจะพากันออกมาโดยไม่เกรงกลัวอำนาจของ คสช.หรืออำนาจของรัฐบาลอีกต่อไปแล้ว”
ด้านนายพิชิต ตู้บรรเทิงหัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นผู้รับหนังสือดังกล่าว พร้อมรับว่า จะนำเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยเหนือที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ความช่วยเหลือแก้ไขปัญหาตามลำดับขั้นตอนต่อไป วันเดียวกันที่ตลาดกลางยางพาราสุราษฎร์ธานีที่สหกรณ์สุราษฎร์ธานี(โคออป) อ.พุนพิน มีการประมูลซื้อขายยางพารา ปรากฎว่ายางแผ่นดิบ เพิ่มขึ้น 18 สตางค์ ได้ราคา ก.ก.ละ 53.25 บาท ตลาดท้องถิ่น ก.ก.ละ 51บาท น้ำยางสด 49 บาท เศษยาง 21.50 บาท ส่วนที่ตลาดกลางหาดใหญ่ จ.สงขลายางแผ่นดิบชั้น 3 ขึ้น 62 สตางค์ ได้ราคา ก.ก.ละ 52.57บาท และตลาดกลางนครศรีธรรมราช ได้ราคา 52.41 บาท