อดุลย์ลั่นปรับปรุงตึกไทยฯ เสร็จสิ้นเดือนนี้ (ชมคลิป)

เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
 
ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าการปรับปรุงทำเนียบรัฐบาล โดยมีม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมศิลปากร กรมยุทธโยธาทหารบก กรมโยธาธิการและผังเมือง เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวเปิดประชุมตอนหนึ่งว่า
 
วันนี้เป็นการประชุมติดตามความคืบหน้าการปรับปรุงทำเนียบรัฐบาล โดยการปรับปรุงตั้งเป้าให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 ก.ย. เพราะคาดว่าจะมีการเลือกนายกรัฐมนตรีในสัปดาห์นี้ ส่วนเรื่องของคณะรัฐมนตรี (ครม.)ก็เป็นสัปดาห์ต่อไป ซึ่งทั้งหมดจะต้องทำให้เสร็จสิ้นในสิ้นเดือนนี้

“ความพร้อมต่าง ๆ ของตึกไทยคู่ฟ้าและทั้งหมดจะต้องแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน ส.ค.นี้ สำหรับห้องประชุม ครม.ชั้น 5 ตึกบัญชาการ 1 นั้น ก็จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนนี้เช่นกันเพื่อสามารถรองรับการประชุม ครม. ซึ่งการประชุมครั้งนี้คงต้องขอทราบถึงการดำเนินการทั้งหมด รวมทั้งการเบิกจ่ายงบประมาณด้วย”พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าว

ขณะที่ม.ล.ปนัดดา กล่าวถึงความพร้อมในส่วนของทำเนียบรัฐบาลเพื่อรับนายกรัฐมนตรีคนใหม่
 
ซึ่งจะมีการโหวตเลือกจากที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในวันที่ 21 ส.ค.นี้ ว่า จากรายงานครั้งสุดท้ายงานทุกอย่างเป็นไปตามกรอบเวลา ซึ่งการประชุมวันนี้ก็จะเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งเมื่อมีการโปรดเกล้าฯ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ก็ต้องเป็นไปตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) กำหนดไว้ ซึ่งขณะนี้สถานที่ ห้องทำงานนายกรัฐมนตรี และความพร้อมทุกอย่างเป็นไปตามกรอบเวลา ซึ่งทาง สลน.เป็นผู้รับผิดชอบ เมื่อถามย้ำว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่ คนที่ 29 นี้ เมื่อเข้ามารับตำแหน่งจะต้องเข้านั่งบริหารงานที่ตึกไทยคู่ฟ้าใช่หรือไม่ ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า “ ต้องเป็นเช่นนั้น”

ทั้งนี้ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น พล.ต.อ.อดุลย์ ให้สัมภาษณ์ว่า การทำงานทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่เราตั้งเป้าไว้
 
ซึ่งส่วนใหญ่จะดำเนินการเสร็จทันและส่งมอบงานได้ประมาณวันที่ 1 ก.ย.นี้ โดยในส่วนของตึกไทยคู่ฟ้าเหลือเพียงติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ และตึกบัญชาการ 1 ใกล้แล้วเสร็จแล้ว อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมพื้นที่สำหรับจัดพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีไว้แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้รายงานในที่ประชุมว่ายังมีพื้นที่ซึ่งน่าเป็นห่วงและต้องเร่งปรับปรุง คือตึกบัญชาการ 2 ซึ่งจะใช้เป็นสถานที่ทำงานของคณะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ทันต่อการเข้าปฎิบัติงาน.