พินิจเลิกจ้างTDRIวิจัย30บ. อ้างเสนอข้อมูลอคติทักษิณ

พินิจ เดือดขนผู้บริหาร สธ. เปิดแถลงโต้ อัมมาร หลังถูกวิพากษ์รัฐทอดทิ้ง 30 บาท พร้อมสั่งเลิกจ้างทีดีอาร์ไอวิจัยหลักประกันสุขภาพต่อ เหตุเสนอข้อมูลไม่เป็นจริง จ้วงซ้ำ เป็นการวิจารณ์ที่อคติต่อรัฐบาลและนายก ฯ

(31มี.ค.) นายพินิจ จารุสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง สาธารณสุข พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่ง ชาติ (สปสช.) เปิดแถลงข่าวตอบโต้ ดร.อัมมาร สยามวาลา นักวิชาการสถาบันวิจัยเพื่อการ พัฒนาแห่งประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กรณีการเผยผลการวิจัยโครงการประชานิยม ซึ่งระบุ ว่ารัฐบาลทอดทิ้งโครงการ 30 บาท ว่า ต้องขอขอบคุณ ดร.อัมมาร และ ดร.วิโรจน์ ณ ระนอง นักวิชาการทีดีอาร์ไอ ที่ได้ติดตามและวิเคราะห์โครงการ 30 บาท อย่างต่อเนื่อง และชื่นชมว่าเป็นโครงการที่ดี ได้รับความนิยมจากประชาชนอย่างกว้างขวาง เป็นนโยบายที่ เป็นรูปธรรม สามารถลดความยากจนของประชากรได้ถึง 300,000 ราย แต่ในตอนท้ายที่ ระบุว่า ขณะนี้โครงการ 30 บาทถูกรัฐบาลทอดทิ้ง นายกรัฐมนตรีไม่สนใจ ซึ่งต้องบอกว่าผิด ไปจากข้อเท็จจริง เพราะเป็นนโยบายหลักของพรรคไทยรักไทย และนำมาเป็นนโยบาย สำคัญของรัฐบาลภายหลังได้รับการเลือกตั้ง จนเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จ จึงเป็นไปไม่ ได้ที่รัฐบาลจะทอดทิ้ง

นายพินิจ กล่าว่า จากผลการสำรวจพบว่าโครงการ 30 บาท ยังได้รับความนิยมจาก ประชาชนเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากรัฐบาลจะไม่ทอดทิ้งแล้ว ในปีงบประมาณ 2549 นายกรัฐมนตรียังเป็นผู้ทุบโต๊ะกลางที่ประชุมคณะรัฐมนตรีตัดสินใจเพิ่มงบประมาณใน โครงการ จาก 1,393 บาทต่อรายหัว เป็น 1,659 บาทต่อรายหัว อีกทั้งเมื่อเดือนที่ผ่านมา ยังอนุมัติงบให้อีก 15,000 ล้านบาท รวมงบประมาณที่ใช้ในโครงการถึง 80,000 ล้านบาท

ดร.อัมมารคงมีความเข้าใจคลาดเคลื่อน หรือมีอคติต่อรัฐบาล ต่อนายกรัฐมนตี เพราะคน ระดับท่านน่าจะติดตามข้อเท็จจริงบ้าง เรียกว่า นายกรัฐมนตรีให้การสนับสนุนโครงการเต็ม ที่ พร้อมให้พัฒนาประสิทธิภาพ โดยแนะนำให้ตนทำในเรื่องของการป้องกันโรค จึงจำเป็น ต้องออกมาชี้แจงให้รับทราบ พร้อมกันนี้ยังจะทำหนังสือชี้แจงไปยัง ดร.อัมมาร ในประเด็น ดังกล่าวด้วย รมว.สธ. กล่าว และว่า ไม่น่าเชื่อว่า ดร.อัมมารจะออกมาบอกว่า รัฐบาลไม่

สนใจโครงการ 30 บาท ทั้งที่ สปสช.ได้พัฒนาศักยภาพโครงการไปมาก ซ้ำเมื่อขออะไร รัฐบาลก็ให้ไป โดยทาง สปสช.เองก็พอใจ

ทั้งนี้ได้สั่งการไปแล้วว่า เราจะเลิกใช้ทีดีอาร์ไอในการติดตามและประเมินโครงการ 30 บาท ไม่ทำสัญญาต่อถ้าตนยังอยู่กระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากมีการวิเคราะห์ที่ไม่ตรงไป ตรงมา ถือว่าเป็นอคติ เพราะรัฐบาลได้ทุ่มงบขนาดนี้ยังหาว่ารัฐบาลทอดทิ้ง และจะให้หน่วยงานอื่น อย่าง มหิดล หรือมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทำวิจัยแทนได้ เชื่อว่าไม่มีอะไร กระทบกับการยกเลิกครั้งนี้ ผมเคารพท่านในหลักวิชาการ แต่เมื่อออกมาบอกว่ารัฐบาลทอด ทิ้ง ซึ่งไม่เป็นความจริงทำให้เกิดความเสียหาย เหมือนกับบอกว่าผมทอดทิ้งลูก รมว.สธ. กล่าว

นอกจากนี้ นายพินิจ ยังได้กล่าวถึงการแต่งตั้งปลัดกระทรวงสาธารณสุข ว่า คงต้องรอให้พ้น จากการเลือกตั้งไปก่อน แม้ว่ารัฐบาลรักษาการจะมีอำนาจแต่ตั้งปลัดได้เช่นเดียวกับรัฐบาล ปกติ แต่อาจมีปัญหาในเรื่องของกฎหมายเลือกตั้งได้ ส่วนผู้ที่จะมาเป็นปลัดนั้นอาจเป็นคน นอกหรือคนในก็ได้ แต่ต้องมีคุณสมบัติที่ดี มีความรู้ความสามารถ เป็นที่ยอมรับของ บุคลากรในกระทรวง