ไม่เอาหวยแบบใหม่!

กลุ่มผู้ค้าหวยบนดินกว่า 20 คน ได้มารวมตัวชุมนุมคัดค้านการจำหน่ายหวยบนดินรูปแบบใหม่พร้อมกับยื่นหนังสือถึง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี

โดยเรียกร้องให้กลับไปใช้วิธีออกหวยบนดิน 2 ตัว 3 ตัวรูปแบบเดิม เพราะหวยบนดินรูปแบบใหม่ที่รัฐบาลจะจัดพิมพ์นั้น ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาหวยใต้ดิน

แต่กลับจะทำให้หวยใต้ดินคืนชีพ พร้อมกันนี้กลุ่มดังกล่าวยังได้จุดไฟเผาโปสเตอร์จำลองสลากฯ รูปแบบใหม่ประท้วงรัฐบาลด้วย

ได้ร้องตะโกนเพื่อขอเข้าพบและเจรจากับนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ไม่ยอมประสานงานผ่านกองรับเรื่องร้องเรียนทำเนียบ

โดยได้มี นางหทัยรัตน์ ลือศิริวรารัตน์ แม่ค้าหวยบนดิน ได้ถือธงชาติและธงประท้วงเอาหวยบนดินแบบเก่าคืนมา ปีนขึ้นนั่งคล่อมประตูรั้วทำเนียบด้านประตู 4 ฝั่งตรงข้ามสำนักงานป.ป.ช. พร้อมตะโกนขอพบนายกฯ ๆ

ซึ่งนางหทัยรัตน์ปีนขึ้นไปนั่งอยู่นานกว่าครึ่งชั่วโมงจนเป็นลมพับ เพื่อนๆที่มาประท้วงด้วยกันจึงพยายามนำตัวนางหทัยรัตน์ลงมาจากประตูรั้วทำเนียบ โดยให้นอนขวางอยู่ที่หน้าประตู 4 เพื่อปฐมพยาบาล และร้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกรถพยาบาลให้มาช่วย

แต่เมื่อรถพยาบาลมาถึงนางหทัยรัตน์ได้หายจากอาการแล้วและไม่ยอมขึ้นรถพยาบาล อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ให้กลุ่มผู้ค้าหวยส่งตัวแทนเข้ามายื่นหนังสือที่ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์จากประชาชน ทำเนียบรัฐบาล

ขณะที่ นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรี และรมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มผู้ค้าหวยบนดิน 2-3 ตัวค้านรูปแบบการขายหวยแบบใหม่ของรัฐบาล ว่า ตนเข้าใจว่ากลุ่มผู้ค้าหวยไม่ได้คัดค้านการขายหวยแต่คงต้องการให้การขายหวยเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง

ซึ่งกระทรวงการคลังจะเป็นผู้ดูแลว่าจะออกหวยหรือไม่ หรือออกหวยรูปแบบใด

นายไพบูลย์ กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลไม่ออกหวยก็ไปขายกันใต้ดิน ปัญหาเยาวชนและอบายมุขไม่ได้หมดไป เพราะหวยออกมาขายหรือไม่ขาย เพราะขายก็มีปัญหาไม่ขายก็มีปัญหา

เหตุผลที่สำคัญในการออกหวยน่าจะเป็นการแก้ไขหวยได้ดิน ในขณะเดียวเราก็ต้องส่งเสริม ดูแลป้องกัน ไม่ให้เยาวชนถูกมอมเมา ปัญหาสังคมถือเป็นปัญหาที่ซับซ้อน และต้องใช้เวลา รวมทั้งต้องปูฐานไปยังการพัฒนาในอนาคตด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่าการออกหวยนั้นสวนทางการทำงานของรัฐบาลที่พยายามรณรงค์ให้ลด ละ เลิก อบายมุข นายไพบูลย์ กล่าวว่า ไม่ถือว่าเป็นการสวนทางแต่เป็นเรื่องที่ต้องทำควบคู่กันไป บางอย่างต้องทำด้วยเหตุผลในขณะที่ต้องแก้ไขปัญหาสังคมไปพร้อมๆกัน เช่น กระทรวงไอซีที ที่ต้องพัฒนาเทคโนโลยีและต้องป้องกันสื่อที่ไม่เหมาะสมควบคู่กัน

แต่อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับว่าปัญหาต่างๆมีความซับซ้อน และการแก้ไขปัญหาบางอย่างอาจจะทำให้ลดปัญหาได้

แต่ก็อาจจะมีปัญหาอีกอย่างแทรกซ้อนขึ้นมาได้ และตนก็ไม่ได้รู้สึกหนักใจอะไรในการทำงานเพราะถือว่าเป็นเรื่องของความเป็นจริงในชีวิต

ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพ โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์