วัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อัด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.โยนบาปนักการเมือง ทำประเทศพัง ซัดพูดความจริงครึ่งเดียว ชี้ ขรก.ตัวดีมือชงร่วมด้วยช่วยโกง แนะใช้รัฏฐาธิปัตย์ในมือปัดกวาดปัญหาให้หมด
นาย วัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์
กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ระบุว่า คสช.จำเป็นต้องเข้ามา เพราะนักการเมือง ปล่อยให้สภาพบ้านเมืองอยู่เช่นนี้มาเป็น 10 ปี ทำไมไม่แก้ปัญหานั้นว่า ด้วยความเคารพต่อหัวหน้า คสช. สิ่งที่ท่านพูดเป็นการพูดความจริงเพียงครึ่งเดียว เพราะแท้จริง ปัญหาที่เกิดขึ้น มิได้เกิดจาก นักการเมืองเพียงฝ่ายเดียว แต่เกิดจาก ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ด้วย ที่มีส่วนยุยงส่งเสริม สนับสนุน เพิกเฉย หรือสมยอม
นาย วัชระ กล่าวว่า ดังนั้นหากเป็นความผิด อย่างมหันต์ ข้าราชการผู้ใหญ่ ก็ต้องผิดด้วยครึ่งหนึ่ง ต้องเป็นจำเลยร่วม
จากนั้นอย่ามัวแต่โทษฝ่ายการเมืองหรือนักการเมืองเพียงฝ่ายเดียว กรุณาดูข้อเท็จจริงให้ถี่ถ้วนด้วยว่า ต้นตอการทุจริตคอร์รัปชั่น มาจากข้าราชการประจำเป็นผู้ชงเรื่องขึ้นมาทั้งสิ้นใช่หรือไม่ ของอย่างนี้ตบมือข้างเดียวคงไม่ดัง
และ หากจะทำการปฏิรูป ก็ต้องปฏิรูประบบราชการ เป็นการด่วนด้วย และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) บางคน ก็ยังเป็นเช่นนี้อยู่
แต่ส่วนใหญ่น่าเคารพ การที่นักการเมืองออกมาพูด หรือเห็นต่าง มิใช่การสร้างความขัดแย้ง แต่เพื่อต้องการความเป็นธรรม
" ในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าของอำนาจรัฏฐาธิปัตย์ แต่เพียงผู้เดียว เมื่อท่านบอกว่า 10 ปีนักการเมืองไม่ทำอะไร และในยุคที่ผ่านมา มีอำนาจล้นเหลือ ทำไม จึงไม่รีบทำ หรือแก้ไขทั้งต้นตอของปัญหา ข้าวยากหมากแพงทั้งแผ่นดิน ที่ต้องแบกรับราคาพลังงาน ล๊อตเตอรี่จำหน่ายราคาเกินที่กำหนด ก็ยังขายเกลื่อน โดยเฉพาะปัญหาราคาพืชผลเกษตรตกต่ำ หรือแม้แต่กรณีการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯที่ผมส่งหนังสือร้องเรียน ท่านส่งกลับไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แล้วโจรที่ไหนจะจับโจรด้วยกัน อย่างกรณีการถอดยศร้อยตรี ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังรีบทำกันได้ และยศ พ.ต.ท.ของทักษิณ ชินวัตร ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาความผิดในหลายปีแล้ว ทำไมไม่ดำเนินการ " นายวัชระ กล่าว
นาย วัชระ กล่าวว่า หัวหน้า คสช.เปรียบเหมือน นนทกใน เรื่องรามเกียรติ์ ที่บัดนี้ได้นิ้วเพชร จะชี้เป็นชี้ตายใครก็ได้ ตนพูดมาด้วยความเป็นห่วงและด้วยความเคารพยิ่งว่า ควรชี้นิ้ว ด้วยความระมัดระวังยิ่ง หากใครชวนรำวง ก็อย่าเผลอชี้นิ้วเข้าหาตัวเองก็แล้วกันตนเป็นห่วงจริง