วันที่ 23 กรกฎาคม ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ
เปิดแถลงข่าวด่วนที่กระทรวงการต่างประเทศ เมื่อ เวลาประมาณ 17.30 น. ชี้แจงกรณีองค์กร Human Rights Watch (องค์การฮิวแมนไรท์วอทช์) องค์กรด้านสิทธิมนุษยชน ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับประเทศไทยภายใต้สถานการณ์การควบคุมอำนาจการปกครองของไทยโดย Human Rights Watch ได้ทำหนังสือมายังประเทศไทย แสดงความเป็นห่วงสถานการณ์การคุกคามเสรีภาพในไทย
โดยการแถลงในวันนี้เพื่อชี้แจงและขอตอบโต้การออกแถลงการณ์ของ Human Rights Watch เพราะสิ่งที่ Human Rights Watch ทำนั้นเป็นประเด็นเก่า ที่ไม่เข้าใจพัฒนาการทางการเมืองของไทย ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงมาโดยตลอด
ทั้งนี้ Human Rights Watch ยังได้แสดงความเป็นห่วงเรื่องของการแทรกแซงสื่อ
ซึ่ง คสช.ก็ได้มีการแก้ไขให้เป็นไปตามที่สมาคมสื่อต้องการแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นชัดเจนว่า คสช.ก็ไม่ได้ต้องการแทรกแซงสื่ออย่างเกินควรแต่อย่างใด ส่วนเรื่องการห้ามการชุมนุมทางการเมืองนั้นทางไทยได้ชี้แจงไปแล้วว่า คสช.มีความจำเป็นที่จะต้องห้ามการเคลื่อนไหวทางการเมือง เพราะคนเหล่านั้นต้องการต่อต้านคสช.และก่อความไม่สงบ ซึ่งผิดกับวัตถุประสงค์ของ คสช.ที่ต้องการสร้างความปรองดอง โดยหากปล่อยให้มีการชุมนุมของฝ่ายต่างๆก็จะเกิดความรุนแรงขึ่น. ส่วนเรื่องการเรียกบุคคลไปควบคุมตัวนั่น มีกว่า 470 คน และไมามารายงานตัวกว่า 60 คน ซึ่งทุกคนที่คสช.เรียกถูกปล่อยตัวไปหมดแล้ว โดยองค์กรสิทธิต่างๆก็ได้ติดตามไปดูสภาพความเป็นจริงมาแล้ว ไม่ได้มีการคุกคามเสรีภาพมากเกินไปดังที่ Human Rights Watch กล่าวหา
นอกจากนี้ Human Rights Watch ยังห่วงเรื่องการขับไล่ชาวบ้านที่บุกรุกป่าสงวน
ที่กระทบกับคนจนที่ไม่มีที่ดินทำกิน ซึ่งในส่วนคนที่ยากไร้นั้น ประเทศไทยมีอยู่ไม่มาก โดยผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆได้ให้การช่วยเหลือแล้ว ทั้งนี้ คสช.เพียงต้องการปราบปรามนายทุนที่บุกรุกป่าเท่านั้น
ส่วน เรื่องรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวนั้นกระทรวงการต่างประเทศได้มีการเตรียมการ ประชาสัมพันธ์กับต่างประเทศให้ทราบว่าพัฒนาการต่อจากนี้ของไทยจะเป็นอย่างไรโดยเฉพาะที่ประชาคมโลกอาจจะกังวลเรื่องการสืบทอดอำนาจนั้น ก็เชื่อว่า ทางสภานิติบัญญัติจะเป็นผู้เสนอชื่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็เป็นไปตามโรดแมป ที่นำไปสู่การเลือกตั้ง จึงเชื่อว่าต่างประเทศจะเข้าใจรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ที่ต้องการสร้างความปรองดอง และท้ายที่สุดจะนำไปสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์