อภิสิทธิ์ จี้ ประยุทธ์ แจงอำนาจมาตรา44

อภิสิทธิ์ จี้ ประยุทธ์ แจงอำนาจมาตรา44


วันนี้ (23 ก.ค.57) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงกรณีการออกรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว 2557  ระบุว่า

"สู่ระยะที่ ๒ ของคสช. : รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว มาตรา ๔๔


เดิมตั้งใจจะเขียนถึงประเด็นการปฏิรูปด้านต่างๆ แต่เมื่อวานนี้ ได้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมได้อ่านรัฐธรรมนูญแล้วและไม่มีประเด็นอะไรที่เกี่ยวกับโครงสร้างของสภา นิติบัญญัติ สภาปฏิรูป และคณะรัฐมนตรี ที่อยู่เหนือความคาดหมายนัก ในส่วนของการจัดทำรัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่ ต้องยอมรับว่ามาตรา ๓๕ ได้บัญญัติประเด็นของรัฐธรรมนูญฉบับถาวร ที่จะแก้ปัญหาระบบการเมืองไว้ ค่อนข้างจะตรงประเด็น ไม่ว่าจะเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้กับการทุจริตคอร์รัปชั่น การที่นักการเมืองถูกครอบงำ หรือปัญหาของการที่หลักนิติธรรมนิติรัฐถูกทำลายในอดีต


แต่มีบทบัญญัติมาตราหนึ่งที่อาจถูกมองว่าผิดปกติ คือ มาตรา ๔๔ อันเป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับอำนาจของหัวหน้าคสช. และคสช.

ซึ่งเป็นอำนาจพิเศษ โดยเป็นการเขียนในลักษณะที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ขอทำความเข้าใจในเบื้องต้นก่อนว่า การตราธรรมนูญการปกครองก็ดี หรือรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวก็ดี โดยปกติเป็นการส่งมอบอำนาจรัฏฐาธิปัตย์ ซึ่งเป็นอำนาจเบ็ดเสร็จที่คณะรัฐประหารใช้ กลับเข้าสู่การใช้อำนาจอธิปไตย โดยพระมหากษัตริย์ ผ่านสภานิติบัญญัติ คณะรัฐมนตรี และศาล การใช้อำนาจของคณะรัฐประหารจะมีการคงไว้อยู่บ้างในลักษณะของการบริหารเพื่อ แก้ไขสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องหรือกระทบต่อความสงบเรียบร้อยและความมั่นคง เช่น

• เมื่อปี ๒๕๔๙ ประธาน คมช. อาจขอให้มีการประชุมร่วมกันระหว่าง คมช. กับครม. ได้ในปัญหาที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงแห่งชาติ


• ในปี ๒๕๓๔ ประธาน รสช. โดยความเห็นชอบของที่ประชุมร่วมระหว่างสภา รสช. กับนายกรัฐมนตรี อาจสั่งการหรือกระทำการใดๆ เพื่อป้องกันระงับหรือปราบปรามการกระทำที่กระทบต่อความมั่นคงได้


แม้แต่ในปี พ.ศ. ๒๕๐๒ ซึ่งสังคมไทยจะกล่าวถึงเสมอ คือมาตรา ๑๗ ที่ถือว่าเบ็ดเสร็จที่สุด ก็จะให้อำนาจนายกรัฐมนตรี

ในการสั่งการหรือกระทำการเพื่อระงับหรือปราบปรามการกระทำที่กระทบต่อความ มั่นคง ความแตกต่างในครั้งนี้ คือ ในมาตรา ๔๔ อำนาจพิเศษนั้น เป็นของหัวหน้า คสช. โดยความเห็นชอบของคสช. โดยไม่เกี่ยวข้องกับนายกรัฐมนตรี และมาตรา ๔๔ ยังบัญญัติโดยชัดแจ้งว่าการใช้อำนาจนี้อาจมีผลบังคับในทางนิติบัญญัติ และทางตุลาการได้ โดยไม่มีกระบวนการที่จะโต้แย้งหรือตรวจสอบ นั่นหมายถึง ความสามารถที่จะออกกฎหมายและ/หรือการกลับคำพิพากษาได้ ขอบเขตของการใช้มาตรา ๔๔ นี้ ยังมิได้จำกัดอยู่เฉพาะการป้องกันระงับหรือปราบปรามการกระทำที่เกี่ยวกับ ความมั่นคง แต่สามารถใช้เหตุผลว่าเพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปหรือการส่งเสริมความ สมานฉันท์ของคนในชาติได้ด้วย บทบัญญัติในมาตรานี้ทั้งหมดจึงอาจถูกมองได้ว่าไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของ มาตรา ๓

ผมเชื่อว่าสังคมยอมรับสภาพการคงอำนาจพิเศษในกรณีที่จะเกิดปัญหาความปั่นป่วน วุ่นวายขึ้น

แต่ยังไม่ชัดเจนว่าวัตถุประสงค์ของการขยายอำนาจพิเศษให้ครอบคลุมอำนาจ นิติบัญญัติและอำนาจตุลาการก็ดี หรือการอ้างอิงเหตุผลในการใช้อำนาจเพื่อผลักดันการปฏิรูปหรือการส่งเสริม ความสมานฉันท์ก็ดี มีความจำเป็นอย่างไร เพราะโดยโครงสร้างสภานิติบัญญัติแห่งชาติและสภาปฏิรูปก็มีที่มาจากคสช. อยู่แล้วและการระงับการกระทำที่เป็นปัญหาต่อความมั่นคงก็จะเป็นการใช้ มาตรการทางบริหารเป็นหลัก ผมจึงหวังว่าหัวหน้า คสช. จะช่วยอธิบาย ถึงความจำเป็นและสิ่งที่ท่านคิดอยู่ในใจว่าจะใช้อำนาจในมาตรา ๔๔ นี้ ในกรณีไหนอย่างไรโดยเร็ว เพื่อให้เกิดความชัดเจนและหลีกเลี่ยงความขัดแย้งหรือความวุ่นวายที่อาจจะ เกิดขึ้นได้"

 
ผู้สื่อข่าว : ทีมข่าวสปริงนิวส์

อภิสิทธิ์ จี้ ประยุทธ์ แจงอำนาจมาตรา44


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์