เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี
นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการ ป.ป.ช.เปิดเผยว่า สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.เตรียมการยกร่างคำชี้แจงและคำแถลงการณ์เกี่ยวกับการพิจารณาคดีโครงการ รับจำนำข้าว หลังน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาตั้งข้อสังเกตว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจาก ป.ป.ช.เรื่องกระบวนการไต่สวนและจะแถลงชี้แจงให้ทราบในวันที่ 22 กรกฎาคม ขอยืนยันว่าการทำงานของคณะกรรม ป.ป.ช.ไม่ได้เป็นการเร่งรัดปิดเกม เพราะป.ป.ช.ปฏิบัติหน้าที่ตามกรอบของกฎหมายทุกประการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าอัยการสูงสุด (อสส.) จะส่งฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
นายวิชัยกล่าวว่า ป.ป.ช.ได้พิจารณาเสร็จสิ้นกระบวนการแล้ว โดยมีพยานหลักฐานและเอกสารชัดเจนครบถ้วนแน่นหนามาก จึงคิดว่าไม่น่าจะต้องตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่างอัยการสูงสุดกับป.ป.ช. ซึ่ง ขั้นตอนขณะนี้ ป.ป.ช.เร่งทำเอกสารและรายงานส่งอัยการฯให้ทันภายใน14 วันตามกรอบของกฎหมาย โดยไม่สามารถขยายเวลาไปมากกว่านี้ได้
ถามต่อว่า ป.ป.ช.จะสามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งได้หรือไม่
หลังคณะกรรมการ ป.ป.ช.ให้ความเห็นว่าโครงการรับจำนำข้าวสร้างความเสียหายเป็นมูลค่าประมาณ 5 แสนล้านบาท นายวิชัยกล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ครั้งล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมายังไม่ได้พูดคุยกันถึงประเด็นนี้ แต่คิดว่าคงต้องมาพิจารณากันในรายละเอียดอีกครั้ง
วันเดียวกัน นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวตอนหนึ่งระหว่างการบรรยาย
หัวข้อ “ปัญหาคอร์รัปชั่นในประเทศไทย: บทบาทของนักกฎหมายและนักเศรษฐศาสตร์” ให้เจ้าหน้าที่ สำนักงาน ป.ป.ช และ คณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท)รับฟังว่า ที่ผ่านมาการทุจริตเป็นเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์อันเป็นตัวเงินหรือสิ่ง อื่นที่ไม่ใช่ตัวเงิน แต่ปัจจุบันเป็นเรื่องการใช้อำนาจที่ได้จากประชาชนในทางที่ผิด ใช้เพื่อประโยชน์แก่พวกพ้อง เรียกว่าทุจริตเชิงนโยบาย หรืออยู่ในลักษณะผลประโยชน์ทับซ้อน หากปล่อยทิ้งไว้เป็นอันตรายใหญ่หลวงต่อประเทศชาติ ฉะนั้น จึงต้องเร่งปรับปรุงกฎหมายให้ตอบสนองความต้องการของสังคม และเข้ากับยุคสมัย เพื่อบังคับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“ปัญหาการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่นอีกประการคือ กฎหมายมีความซับซ้อน ยากที่คนทั่วไปจะเข้าใจได้ นอกจากนี้ คนส่วนใหญ่ผูกติดกับกฎหมายคือ ออกมาแล้วต้องบังคับใช้ได้จริง และมีอยู่จริง ทั้งนี้ เกิดการตั้งคำถามจากประชาชนจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกฎหมายว่า ไม่เป็นธรรมต่อตนเอง ก็จะออกมาโวยวาย หลังจากนั้นจะเกิดการโต้แย้งไปเรื่อย
เช่น คดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในกระบวนการไต่สวนและพิจารณา
ทั้งที่กฎหมายที่ใช้ในประเทศไทยปัจจุบันเป็นกฎหมายในรูปแบบรัฐถาธิปัตย์คือ
กฎหมายไม่มีการแบ่งแยกระดับชนชั้น โดยใช้กระบวนการยุติธรรมอย่างเท่าเทียมกันจึงจะเกิดความเสมอภาคในสังคม รวมทั้งกฎหมายที่บังคับใช้ต้องตอบสนองสังคม หากตอบโจทย์ไม่ได้จะเกิดการโต้แย้งของการใช้กฎหมายในสังคมทันที”นายวิชา กล่าว และว่า นโยบายสาธารณะเป็นเศรษฐศาสตร์การเมือง ซึ่งถ้ารัฐบาลมุ่งประสงค์หารายได้โดยไม่คำนึงถึงความเจ็บปวดของประชาชน หรือ สาธารณะ นั่นคือความพินาศ หรือ ความตายของทุกรัฐบาล
ด้านนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความที่ได้รับมอบหมายจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีให้สู้คดีจำนำข้าว
กล่าวถึงกระแสข่าวระบุน.ส.ยิ่งลักษณ์ ตัดสินใจเลื่อนวันเดินทางไปต่างประเทศว่า เท่าที่ตนทราบกำหนดเวลาเดินทางไปยุโรปของน.ส.ยิ่งลักษณ์ยังไม่มีการยกเลิก หรือเลื่อนการเดินทางออกไป หลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อนุญาตให้อดีตนายกรัฐมนตรีเดินทางออกนอกประเทศได้ ยืนยันยังอยู่ในช่วงวันที่ 20 กรกฎาคม-10 สิงหาคมเช่นเดิม แต่จะเดินทางไปยุโรปวันใด ตนยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนในเรื่องดังกล่าว แต่ยอมรับว่าเป็นไปได้ที่อาจเลื่อนวันเดินทางออกไป อาจเป็นวันที่ 23 หรือ 24 กรกฎาคม แต่ยังไม่มีการยืนยันยกเลิกการเดินทางแต่อย่างใด