พันธมิตรฯ ร้องศาลปกครองสั่งสอบฉุกเฉิน แม้ว ผิด กม.เลือกตั้ง

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 31 มีนาคม 2549 10:54 น.

พันธมิตรฯเดินหน้ายื่นศาลปกครองสั่งกกต.ไต่สวนฉุกเฉิน กรณีพบหลักฐานทักษิณทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ชี้ หากปล่อยล่าช้าหลังเลือกตั้งวุ่นวายแน่ และประเทศชาติจะเสียเงินเสียเวลาโดยใช่เหตุ ด้าน กกต. ยัน ทำทุกอย่างตามขั้นตอนกฎหมายแล้ว ขณะเดียวกัน โยนผ.อ.เขตเลือกตั้ง พิจารณาคุณสมบัติ พิมพา ระบุ คาดภายในวันนี้รู้ผล

เมื่อเวลา 10.10น. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยผ่านรายการข่าวทางASTV ว่า ในวันนี้ตนและตัวแทนประชาชนบางส่วนจะเดินทางไปยื่นคำร้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้พิจารณาฉุกเฉินให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ไต่สวนชี้มูลการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย เนื่องจากกำหนดเวลา 10 วันในการตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบของเท็จจริงของกกต.นั้นล่าช้าไม่ทันการ อาจส่งผลเสียสร้างความโกลาหลหลังการเลือกตั้งได้ และจะทำให้เสียเวลาและงบประมาณแผ่นดินโดยใช่เหตุ

นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า ที่กกต.อ้างข้อติดขัดต่างๆนั้นเป็นเรื่องที่ฟังไม่ขึ้น ทำให้ตนต้องมาร้องขอต่อศาลปกครอง อย่างไรก็ตามระยะเวลา 2 วันนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะตัดสินความผิดพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะหลักฐานที่ยื่นให้ก็ก็เพียงพอที่จะเอาผิดได้ มีทั้งรูปภาพต่างๆที่แสดงให้เห็นชัดว่าคนของไทยรักไทยแจกข้าวของให้ประชาชน รวมทั้งยังมีการนำเฮลิคอปเตอร์และเครื่องมือรัฐ ไปใช้ปราศรัยหาเสียงไทยรักไทยโดยอ้างว่าตรวจราชการ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นการแอบแฝง ทั้งนี้ หากมีการพิจารณาว่าผิดจริง พ.ต.ท.ทักษิณจะถูกสั่งเว้นวรรคตัดสิทธิ์เลือกตั้งเป็นเวลา 1 ปี

ส่วนกรณีที่พ่อค้าแม่ค้างานกาชาดเรียกร้องให้พันธมิตรฯย้ายออกจากการชุมนุมหน้าทำเนียบฯโดยอ้างว่าทำให้ขายของไม่ได้นั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า เราก็พยายามไกล่เกลี่ยและแบ่งสรรพื้นที่ให้มาตลอด ย้ายที่ชุมนุมให้ ก็คิดว่าน่าจะอะลุ่มอล่วยให้กันได้ เพราะเราก็ถอยมาให้เยอะและก็มีผู้ชุมนามจำนวนมากยังอยู่ที่นั่น และพวกเราก็อยู่อย่างสงบเรียบร้อยไม่น่าจะมีปัญหา

สำหรับความเคลื่อนไหวต่อไปของพันธมิตรฯนั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า จะยังปักหลักชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาลต่อเนื่องไปจนถึงการชุมนุมใหญในวันที่ 7 เม.ย.49

ด้านพล.ต.ต.เอกชัย วารุณประภา เลขาธิการกกต. กล่าวยืนยันว่า จะต้องรอผลการตัดสินภายใน 10 เพราะทางกกต.เองได้รับเรื่องร้องเรียนและดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายแล้วโดยตั้งอนุกรรมการฯขึ้นมาตรวจสอบ

พล.ต.ต.เอกชัย กล่าวด้วยว่า สำหรับการเลือกตั้งวันที่ 2 เม.ย.นี้ ผู้มีสิทธิ์สามารถเลือกใช้ปากกาหรือตราปั๊มในกาออกเสียงได้ ส่วนที่มีการเปิดกลโกงเลือกตั้งรูปแบบใหม่นั้น ยอมรับว่าเป็นไปได้ในเทคโนโลยีใหม่ๆ แต่ยังเชื่อว่าทำได้ยากมาก เพราะบัตรเลือกตั้งไม่สามารถจะทำได้ เพราะทำสีออกมาแตกต่างกันไปในแต่ละภาค และมีมาตรฐานสูงมาก สามารถพิสูจน์ได้ว่าบัตรไหนปลอมหรือจริง

ส่วนกรณีของนางพิมพา จันทร์ประสงค์ ผู้สมัคส.ส.จังหวัดนนทบุรี พรรคไทยรักไทย ที่ถูกร้องเรียนว่าหมดสิทธิ์ทางเมืองเนื่องจากไม่ไปเลือกตั้งครั้งก่อน ทำให้ไม่มีคุณสมบัติที่จะลงสมัครส.ส.ได้นั้น พล.ต.ต.เอกชัย กล่าวว่า ทางกกต.ได้มอบนโยบายให้ผ.อ.เลือกตั้งประจำเขตที่รับสมัคร ดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครแล้ว ซึ่งหากปรากฏว่าหลักฐานไม่ชัดเจนทางผู้อำนวยการเขตฯ ก็มีอำนาจใช้ดุลยพินิจที่จะฟ้องศาลฎีกาได้ แต่จะถึงขั้นนั้นหรือไม่ต้องรอดูผลในวันนี้อีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ถ้ามีการยื่นฟ้องศาลฎีกา ก็จะทำให้ผู้สมัครหมดสิทธิ์และเขตดังกล่าวจะไม่มีผู้สมัคร และก็ต้องมาประกาศรับสมัครเลือกตั้งใหม่หลังวันที่ 2 เม.ย.