บิ๊กตู่ กำชับทุกฝ่ายติดตามงาน เร่งแก้ปัญหา

"บิ๊กตู่" กำชับทุกฝ่ายติดตามงาน เร่งแก้ปัญหาให้งานทุกส่วนเดินหน้าต่อไปได้ ด้านกลุ่มม็อบคนจนอ.โนนดินแดง ร้องคสช. อ้างถูกกอ.รมน.บุรีรัมย์ไล่ที่อยู่

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 15 ก.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.)

ถ.ราชดำเนิน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เป็นประธานการประชุมคสช.ชุดใหญ่ ครั้งที่ 6 /2557 โดยมีพล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะรองหัวหน้าคสช.ฝ่ายความมั่นคง พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะรองหัวหน้าคสช.ฝ่ายสังคมจิตวิทยา  พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ ในฐานะรองหัวหน้าคสช.ฝ่ายเศรษฐกิจ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้าคสช. ฝ่ายกิจการพิเศษ  พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รองผบ.ทบ.ในฐานะเลขาธิการคสช. พร้อมด้วยปลัดกระทรวงและหัวหน้าส่วนงานต่างๆเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพียง

ทั้งนี้ในที่ประชุมคสช.ฝ่ายต่างๆ ได้มีการรายงานความคืบหน้าการทำงาน

อาทิ การทำงานในส่วนของฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายสังคมจิตวิทยา ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ฝ่ายเศรษฐกิจและส่วนขึ้นตรงหัวหน้าคสช. โดยพล.อ.ประยุทธ์ ได้สรุปการทำงานที่สำคัญในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาก่อนเข้าวาระประชุมหลักคือการตั้งคณะอนุกรรมการ 3 คณะในการฟื้นฟูตรวจสอบการทำงานรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งการตั้งคณะอนุกรรมการ  5 คณะ   เพื่อเร่งรัดการดำเนินการบริหารจัดการน้ำ  ซึ่งจะต้องมีการเดินหน้าปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมและเห็นผลต่อไปโดยเร็ว พร้อมกันนี้หัวหน้าคสช.ได้กล่าวว่าในสัปดาห์นี้จะมีการหารือกับคณะกรรมการร่วมภาครัฐเอกชน หรือกรอ.เพื่อหาแนวทางให้ทั้งภาคเอกชน เอสเอ็มอี หรือผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ประกอบการด้านการส่งออกและท่องเที่ยว ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นอกจากนี้ยังจะมีการเร่งติดตาม ว่า  ด้วยการดำเนินการขับเคลื่อนการดำเนินเศรษฐกิจพิเศษ ที่มีคณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษ (กนข.)เป็นตัวหลัก
 
ซึ่งการดำเนินการนั้นเน้นให้มีความสอดคล้องกับแผนงบประมาณรายจ่ายปี 2557 และแผนงบประมาณรายจ่ายปี 2558 ด้วย นอกจากนี้ในที่ประชุม คสช. ยังได้หารือถึงการเตรียมการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนารถ   เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 ส.ค. รวมทั้งติดตามการดำเนินการพิจารณาตามแผนงบประมาณรายจ่ายปี 2557  รวมทั้งการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี  2558  ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณด้านหน้าบก.ทบ. กลุ่มสมัชชาคนจน  (สคจ.) ประมาณ100 คน

นำโดย นายสมเกียรติ พ้นภัย ตัวแทนสมัชชาคนจน เดินทางยื่นหนังสือต่อพล.อ.ประยุทธ์ เพื่อขอให้ยุติการอพยพไล่รื้อบ้านของชาวบ้านหมู่บ้านเก้าบาตร ต.รำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ เนื่องจากภายหลังการยึดอำนาจของคสช. ได้มีคำสั่งคสช. ฉบับที่ 64/2557 ลงวันที่ 14 มิ.ย.2557  เรื่องการปราบปราม และ หยุดหยั่งการทำลายทรัพยากรป่าไม้จึงเป็นเหตุให้ กอ.รมน. จ.บุรีรัมย์ ใช้เป็นข้ออ้างดำเนินการอพยพ ไล่รื้อ ข่มขู่ คุกคาม กลั่นแกล้ง ใส่ร้ายป้ายสีชาวบ้าน เช่น การประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านออกจากพื้นที่ด้วยความสมัครใจ ทั้งที่จริงแล้วเป็นการใช้กำลังทหารพร้อมอาวุธครบมือเข้าไปข่มขู่บีบบังคับให้ชาวบ้านรื้อบ้าน เป็นต้น 

โดยนายสมเกียรติ กล่าวว่า สคจ.เห็นว่า การกระทำของกอ.รมน. จ.บุรีรัมย์ เป็นการกระทำอันขัดต่อคำสั่งคสช. ฉบับที่ 66 / 2557

และเป็นการลุแก่อำนาจ ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือกดขี่ ทำร้าย ทำลายประชาชน สคจ.จึงขอเรียกร้องให้คสช.สั่งการให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ดังนี้ 1.ให้ยุติการข่มขู่ คุกคาม อพยพ ไล่รื้อบ้านชาวบ้านเก้าบาตรโดยทันที 2.ในระหว่างการแก้ไขปัญหาต้องยุติการจับกุม ดำเนินคดี และผ่อนผันให้ชาวบ้านเก้าบาตร อยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ดินเดิมไปพลางก่อนจนกว่าการแก้ไขปัญหาจะได้ข้อยุติร่วมกัน และ 3. ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาชาวบ้านเก้าบาตร ภายใต้การมีส่วนร่วมระหว่างหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับชาวบ้านเก้าบาตรในสัดส่วนที่เท่าเทียมกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ทหารได้เข้าเจรจากับตัวแทนชาวบ้านให้ย้ายสถานที่ในการปักหลักชุมนุม

เนื่องจากบก.ทบ.เป็นสถานที่ราชการ และขอให้ไปยื่นเรื่องที่ศูนย์ร้องเรียน บริเวณประตู 4  ทำเนียบรัฐบาลแทน แต่ตัวแทนชาวบ้านไม่ยอมและขอเข้าไปเจรจากับเจ้าหน้าที่ทหาร   เพื่อขอทราบชื่อเจ้าหน้าที่ทหารที่จะรับเรื่องให้ถึง  พล.อ.ประยุทธ์   ได้โดยตรง ทำให้  พ.อ.อนุชา ชุ่มคำ ผอ.กองประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกองทัพบก (สลก.ทบ.) ได้ออกมารับหนังสือ พร้อมให้ตัวแทนชาวบ้าน จำนวน 6 คน เข้าไปเจรจาภายใน บก.ทบ. ในเวลาเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังตำรวจหญิง (กองร้อยน้ำหวาน) และเจ้าหน้าที่ทหาร เข้าเจรจาให้ย้ายสถานที่ปักหลักไปอยู่บริเวณตรงข้าม บก.ทบ.แทน แต่ชาวบ้านไม่ยอมจนเกิดการยื้อยุดกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับชาวบ้าน โดยชาวบ้านไม่ยอมย้ายไปชุมนุมฝั่งตรงข้าม ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องนำผู้ชุมนุมบางคนถูกนำตัวขึ้นรถคุมตัวผู้ต้องหา เพื่อสงบสติอารมณ์ ซึ่งชาวบ้านได้มีการด่าทอเจ้าหน้าที่ที่เข้าควบคุมตัว โดยเหตุการณ์เกิดประมาณ 10 นาที ก่อนที่ชาวบ้านจะยินยอมย้ายสถานที่ และรอตัวแทนในการเจรจากลับมาชี้แจง.