พบ สนธิ ร่วมหนุนบรรจุพุทธใน รธน.

ที่กองบัญชาการกองทัพบก พระราชปัญญาเมธี และพระมหาบุญถึง ชุติณธโร จากมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ได้เข้าพบพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) โดยใช้เวลาในการหารือประมาณ 20 นาที

จากนั้นพล.อ.สนธิ ให้สัมภาษณ์ว่า พระปัญญาเมธีมาชื่นชมที่ตนได้ชี้แจงเห็นด้วยที่จะบรรจุศาสนาพุทธไว้ในรัฐธรรมนูญ ซึ่งท่านเองก็เห็นด้วยที่จะให้บัญญัติไว้เพราะเห็นว่าสังคมไทยควรที่จะมีการปรับปรุงแก้ไข

โดยเฉพาะ การเป็นคนดี มีคุณธรรม ถ้าเรามีตรงจุดนี้นำก็จะทำให้ประเทศชาติพัฒนาไปได้เร็ว

เนื่องจากประเทศไทยมีหลากหลายศาสนา จะมีผลกระทบต่อศาสนาอื่นหรือไม่ ประธานคมช.กล่าวว่า ไม่น่าจะมีผลกระทบ ยกตัวอย่างที่กรรมาธิการได้ไปหารือกันว่ามีคนทุกกลุ่มศาสนาไปหารือกันแล้วก็สามารถดำเนินการไปได้

อาจจะมีการเพิ่มเติมในตอนท้ายเกี่ยวกับเรื่องของการดูแลและรับผิดชอบทุกศาสนา ผู้สื่อข่าวถามว่ามองหรือไม่ว่าเมื่อปัญหานี้หมดสิ้นแล้วเรื่องของร่างรัฐธรรมนูญน่าจะยุติหรือมีสิ่งที่น่าจับตามองในเรื่องของการโหวตที่อาจจะเกิดขึ้น พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ร่างแรกเป็นการเอาข้อมูลที่คณะกรรมการได้ทำไว้แล้วมาให้สังคมได้ดู

มีทั้งคนที่พอใจและไม่พอใจ ตรงไหนที่ไม่พอใจก็ต้องแจ้งไปเพื่อให้คณะกรรมาธิการไปศึกษาต่อ ไม่ได้หมายความว่าร่างนี้ถูกต้องแล้วต้องใช้อันนี้ไม่ใช่ ยังมีอีกหลายครั้ง ซึ่งทางกองทัพก็กำลังศึกษาด้วย

ต่อข้อถามว่าเมื่อรับร่างรัฐธรรมนูญมาแล้วจะพูดคุยในระดับบนหรือไม่ ประธานคมช. กล่าวว่า ตอนนี้ให้คณะทำงานไปศึกษาจากนั้นจะกลับมาหารือกันอีกครั้ง เมื่อถามว่าเป็นห่วงหรือไม่ในช่วงเดือนพ.ค.ที่จะมีการประกาศยุบพรรค ซึ่งอาจจะทำให้การลงประชามติร่างรัฐธรรมส่งผลกระทบ

เนื่องจากประชาชนที่เป็นฐานเสียงของพรรคมีจำนวนมาก พล.อ.สนธิ กล่าวว่า เรื่องนี้รัฐบาล ส.ส.ร. และคณะกรรมาธิการฯร่างจะมีแนวทางทำความเข้าใจกับประชาชน

รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง 12 องค์กร ถ้าทุกคนมีความชัดเจนต่อปัญหาทั้งหมดคิดว่าเมื่อเข้าใจตรงนี้การทำประชามติอาจจะดีขึ้น มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น

ได้ขอบคุณประธานคมช.ที่ให้การสนับสนุนให้มีการบัญญัติพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติในร่างรัฐธรรมนูญ

โดยพูดชัดเจนว่าพระพุทธศาสนากับชาติไทยอยู่คู่กันมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน และถ้าใครปฏิเสธเรื่องนี้ก็แสดงว่าปฏิเสธประวัติศาสตร์ชาติไทย

ดังนั้น พระสงฆ์และชาวพุทธจะร่วมมือกับประธานคมช.ทำให้ประเด็นนี้เกิดขึ้นเป็นจริงขึ้นมา นอกจากนี้ยังได้พูดถึงกรณีที่พระสงฆ์มาปฏิบัติธรรมที่บริเวณหน้ารัฐสภาซึ่งเป็นพระสงฆ์ที่ศึกษาปฏิบัติมาอย่างดีแล้ว

แต่ที่เดินทางมาทำกิจกรรมนี้เพราะเป็นห่วงประเทศชาติ ไม่ได้ทำอะไรผิดกิจของสงฆ์ และสงบเรียบร้อย

"ถ้ากองทัพมีปัญหาอะไรโดยตรงให้เลขานุการกองทัพบกถามมาทางพระมหาบุญถึงหรืออาตมาได้ เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดระหว่างกองทัพกับชาวพุทธ ท่านก็เข้าใจ โดยเฉพาะประเด็นของศีลธรรมที่ไม่ค่อยมีอยู่ในรัฐธรรมนูญ พระสงฆ์อยากให้รัฐธรรมนูญมีความมั่นคง มีอุดมการณ์ มีศีลธรรมและคำว่าพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติอยู่ในนั้น

โดยฝ่ายพระสงฆ์ยืนยันว่า ถ้าเราจะพัฒนาระบอบประชาธิปไตยหรือบ้านเมือให้มั่นคง เราต้องพัฒนาเรื่องศีลธรรมของชาวพุทธให้ชัดเจน /font>

ซึ่งท่านก็เห็นว่าการบัญญัติพระพุทธศาสนาไว้จะดีกว่าไม่บัญญัติไว้ เพราะบัญญัติไว้จะทำให้ทุกฝ่ายพอใจ และจะทำให้ทุกคนรักรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ท่านเห็นว่าถ้าไม่บัญญัติไว้น่าจะมีปัญหามากกว่าพระราชปัญญาเมธี กล่าว

แล้วการปฏิบัติธรรมที่หน้ารัฐสภาจะดำเนินการต่อไปหรือไม่ พระราชปัญญาเมธี กล่าวว่า อาตมาเป็นตัวแทน ต้องถามเพื่อนและ ชาวพุทธด้วย อย่างไรก็ตาม ประธานคมช.ไม่ได้ขอร้องว่าให้หยุดหรือไม่หยุด

โดยให้สิทธิเสรีภาพแก่ชาวพุทธ เพราะพล.อ.สนธิทราบว่า การทำกิจกรรมดังกล่าวมีการสวดมนต์ ไหว้พระ ทำสมาธิ ศึกษาเล่าเรียน สงบร่มเย็น ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง

ซึ่งพล.อ.สนธิก็อนุโมทนา ไม่ได้เป็นห่วงใยเรื่องนี้ เมื่อถามย้ำว่า เมื่อบัญญัติตามที่ต้องการแล้ว เครือข่ายทั้งหมดจะรับร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ พระราชปัญญาเมธี กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดกัน คงเป็นไปโดยอัตโนมัติ คิดว่าชาวพุทธคงพอใจและรับร่างรัฐธรรมนูญ

ส่วนการชุมนุมของพระสงฆ์ครั้งนี้ถูกมองว่ามีการจัดตั้ง พระราชปัญญาเมธี กล่าวว่า ไม่ได้เป็นเช่นนั้น วันนี้ได้เจริญพรให้ประธานคมช.ทราบว่าพวกเราเป็นพลังบริสุทธิ์

แต่จะมีญาติโยมที่สังกัดพรรคการเมืองที่อยากจะมาเกาะชายผ้าเหลืองบ้างก็เป็นธรรมดา เพราะชาวพุทธก็เป็นนักการเมืองไปอยู่พรรคนั้นพรรคนี้ หรือเมื่อพระและชาวพุทธมีพลังขึ้นมาก้อยากจะมาร่วมด้วยเป็นธรรมดา

ซึ่งรัฐบาลและประธานคมช.ก็ทราบดีว่ามีใครอย่างไรหรือไม่

ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพ โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์