เปิดงานสัมนา "Improving Corporate Governance :Key to Advancing Thailand" ซึ่งจัดโดยสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ว่า การจัดการอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ในช่วงที่ผ่านมา ส่วนตัวประเมินว่าอยู่ในระดับที่ "ใช้ได้" แต่หลังจากนี้ก็ควรจะมีการบริหารจัดการต่อยอดจากสิ่งที่ทำ เพื่อช่วยให้อีก 3 เดือนข้างหน้า เกิดการพัฒนาประเทศไทยไปในทิศทางที่ถูกต้อง
เพราะไม่มีใครสามารถมั่นใจได้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรต่อไป รวมไปถึงให้ คสช. นำบุคคลภายนอก ที่ไม่ใช่พรรคพวกและยังไม่เคยปฏิบัติงานร่วมกันเข้ามาร่วมบริหาร ซึ่งการแบ่งอำนาจดังกล่าวจะทำให้เกิดความโปร่งใสในการดำเนินงาน ไม่เกิดปัญหาอย่างเช่น กรณีโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งไม่มีการจัดทำบัญชี ไม่มียอดบันทึกการจัดเก็บข้าว ปริมาณการขายข้าวที่มีความชัดเจน
ขณะนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ประเทศไทยจะมีการปราบปรามการคอร์รัปชั่นอย่างจริงจัง เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าการฉ้อราษฎร์บังหลวง การโกงกินเป็นโรคร้ายต่อไทยมานานแล้ว ซึ่งระยะหลังก็มากขึ้นจนน่ากลัว ทั้งมาจากข้าราชการ การเมือง ขณะเดียวกันศีลธรรม จริยธรรมก็แทบไม่มี ทำให้นับวันจะยิ่งลดคุณค่าของชีวิตและสังคมลงจนไม่รู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก
ทั้งการป้องปรามและเอาผิดด้านกฎหมายเพื่อให้ปัญหาเหล่านี้เบาบางลงเช่น สิงคโปร์ที่เคยเป็นประเทศที่มีคอร์รัปชั่นสูง ปัจจุบันกลับลดน้อยลง สวนทางกับประเทศไทยที่การคอรัปชั่นกลับเพิ่มขึ้น ดังนั้นทุกภาคส่วนทั้งรัฐบาล เอกชน และประชาชนต้องร่วมกันเปลี่ยนแปลงทัศนคติให้ตระหนักรู้อะไรผิดอะไรถูก ไม่ใช่เก่งแต่สามารถโกงได้