แถลงการณ์ร่วมคาราวานคนจน-คมชัดลึก

ตัวแทนคาราวานคนจนประชาชนชาวไทยผู้จงรักภักดี และตัวแทนกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการยุติปัญหา อันเนื่องมาจากหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก ฉบับวันที่ 24 มีนาคม 2549 หน้า 18 ได้ลงตีพิมพ์คำสัมภาษณ์ของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล อันสร้างความไม่สบายใจให้แก่พสกนิกรชาวไทยทั้งประเทศที่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยมีข้อตกลงดังนี้


1.หนังสือพิมพ์คมชัดลึกและผู้สื่อข่าวซึ่งรายงานข่าวนี้ ได้ยืนยันว่าข้อความที่ลงตีพิมพ์นั้นตรงกับคำให้สัมภาษณ์ของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล จริง

2.เพื่อแสดงความสำนึกและความรับผิดชอบในการนำเสนอข่าวนี้ กองบรรณาธิการคมชัดลึก จะปิดตัวเองเป็นเวลาทั้งสิ้น 5 วัน ประกอบด้วย วันที่ 31 มีนาคม , วันที่ 1 , 2 , 8 และ 9 เมษายน 2549

ทั้งนี้จะเปิดทำการวันแรกฉบับวันที่ 3 เมษายน ซึ่งคมชัดลึกจะเสนอข่าวและภาพกลุ่มคาราวานคนจนและประชาชนชาวไทยผู้จงรักภักดีที่ได้มาแสดงความห่วงใยและความจงรักภักดี ณ สำนักงานคมชัดลึก ไว้ที่หน้า 1 รวมทั้งเผยแพร่ข่าวนี้ไปสู่สื่อมวลชนทุกแขนง

ประกาศ ณ วันที่ 30 มีนาคม 2549


นายคำตา แคนบุญจัน

นายอรรถฤทธิ์ สิงห์ลอ

นายชินวัฒน์ หาบุญพาด

นายชูพงศ์ ถี่ถ้วน

นายสำเริง อคิษะ

นายธนวิชญ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา

นายประเสริฐ ศรีสืบ

นายจักร์กฤษ เพิ่มพูล

นายภาคภูมิ เตมะสิริ

คณบดีนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ชื่นชมหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก ทำโดยไม่ต้องให้ใครขอร้อง เครือข่ายแรงงานออกแถลงการณ์ให้กำลังใจ พร้อมประณามผู้ข่มขู่คุกคาม ชี้หวังผลทางการเมือง ขณะที่กลุ่มวิชาการเพื่อสังคม จ.ขอนแก่นเผยแสดงสปิริตสูงสุดแล้ว หากผิดจริงควรไปฟ้องศาล พร้อมแนะกลุ่มคาราวานคนจนอย่าใช้กฎหมู่เหนือกฎหมาย

วันที่ 30 มี.ค. กรณีที่มีการแจ้งความหนังสือพิมพ์คมชัดลึกของกลุ่มคาราวานคนจน ในข้อหาหมิ่นพระบรมราชานุภาพ จนเป็นสาเหตุให้กลุ่มคาวานคนจนประมาณ 1 พันคน ชุมนุมประท้วงปิดตัวอาคารบริษัทเนชั่นฯตั้งแต่เวลาประมาณ 12.00-18.00 น.นั้น โดยไม่เปิดโอกาสให้พนักงานทั้งเครือเข้าออก มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย

น.ส.วิไลวรรณ แซ่เตีย ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย กล่าวว่า ตามที่มีบุคคลบางกลุ่มข่มขู่และปิดล้อมที่ทำการหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก โดยอ้างว่าการนำเสนอข่าวฉบับวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมาเป็นการทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท ทั้งที่หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก ได้อธิบายเหตุผลถึงความผิดพลาดคลาดเคลื่อนว่าไม่ได้มีเจตนาและแสดงความรับผิดชอบในการกระทำแล้ว และรวมถึงทำเรื่องขึ้นทูลเกล้าขอพระราชทานอภัยโทษแล้ว

แต่กลุ่มบุคคลเหล่านั้นยังพยายามที่จะใช้ประเด็นดังกล่าว เพื่อก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคมและหวังผลทางการเมืองซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง คณะกรรมการสมานฉันท์ฯจึงได้ออกเป็นแถลงการณ์ขอให้กำลังใจหนังสือพิมพ์ คม ชัดลึก และขอประณามการข่มขู่คุกคามของบุคคลบางพวกเหล่านั้น

คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทยขอเรียกร้องให้ผู้ที่คิดจะฉวยประโยชน์ และอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวที่ไม่สมควรครั้งนี้ ยุติการกระทำดังกล่าวในทันทีและขอให้รัฐบาลใช้สื่อที่อยู่ในการควบคุมชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง และไม่ให้ ประเด็นดังกล่าวขยายตัวเป็นความขัดแย้งที่อาจจะนำมาซึ่งโศกนาฎกรรม ที่คนไทยต้องมา เข่นฆ่ากันเองแบบเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในสังคมไทยเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 น.ส.วิไลวรรณ กล่าวและว่า

ขอประณามผู้ที่พยายามสร้างความแตกแยกในสังคมไทยด้วย ประเด็นดังกล่าวและเจตนาจะใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองขอให้ยุติในทันที ขอให้การหาข้อเท็จจริงดังกล่าวเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายที่มีอยู่มิใช่ด้วยการข่มขู่คุกคามอย่างที่เป็นอยู่ ขอให้ทุกฝ่ายหยิบเอาบทเรียนอันเจ็บปวดของเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 เป็นอุทาหรณ์ ขอให้ทุกฝ่ายพึงสังวรเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ประวัติศาสตร์อันเลวร้ายเกิด ซ้ำรอยอีกครั้ง

คณบดีนิเทศจุฬาฯ ชื่นชมคมชัดลึก

รศ.ดร.พีระ จิรโสภณ คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า เท่าที่ทราบทางหนังสือพิมพ์ คมชัด ลึก ก็ได้แสดงความรับผิดชอบอย่างเต็มที่น่าชื่นชม เพราะทำโดยไม่ต้องให้ใครขอร้อง และความรับผิดชอบที่แสดงออกก็ทำเกินขอบเขตที่คนอื่นเคยๆ ทำมา ซึ่งโดยหลักของการแสดงความรับผิดชอบพื้นฐานคือการแก้ข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก ก็ได้ดำเนินการแล้ว ทั้งยังลงตีพิมพ์ยอมรับความผิดพลาดอย่างเปิดใจเด่นชัดก็น่าจะพอ และเหมาะสมกับกรณีการลงข่าวผิดพลาดอย่างไม่เจตนา

คณบดีนิเทศ จุฬาฯ กล่าวแสดงความเห็นส่วนตัวคิดว่า รัฐบาลบอกเสมอเองว่าเคารพกฎหมาย เช่นเดียวกันกับกรณีนี้ที่กลุ่มผู้ชุมนุมก็ควรให้คดีนี้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งก็มีเจ้าหน้าที่พนักงานการพิมพ์ และศาลยุติธรรม ที่จะพิจารณาเรื่องนี้ได้ แม้การชุมนุมจะเป็นการรวมพลังแสดงความเห็นซึ่งเป็นสิทธิ์ที่ทำได้ แต่ไม่ใช้บังคับให้ปลดใครหรือปิดหนังสือพิมพ์ นอกจากนี้ทางออกที่ดีคือฝ่ายวิชาชีพน่าจะช่วยคลี่คลายปัญหาเรื่องนี้ สภาการหนังสือพิมพ์ และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ ควรดำเนินการตามแนวทางปฏิบัติของวิชาชีพ

แนะคาราวานคนจนอย่าใช้กฏหมู่

นายสมพันธ์ เตชะอธิก กลุ่มนักวิชาการเพื่อสังคม จ.ขอนแก่น กล่าวว่า หลักธรรมเนียมที่เคยปฏิบัติมานั้น เมื่อเวลาที่หนังสือพิมพ์ลงข่าวที่บิดเบือนข้อเท็จจริง ก็จะมี 2 วิธี คือ มีการลงหนังสือพิมพ์ขอโทษเป็นระยะเวลา 3 วัน 5 วัน หากเป็นคดีความทางแพ่ง ศาลก็จะมีกระบวนการเจรจาเพื่อไกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้ยุติระหว่างโจทก์และจำเลย เพื่อไม่ให้เป็นคดีความ จากนั้นหนังสือพิมพ์ก็จะลงโทษตามหน้าหนังสือพิมพ์ ซึ่งกระบวนการดังกล่าวเป็นระบบที่ใช้มาอย่างต่อเนื่อง

"แต่กรณีของหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก ซึ่งทางผู้บริหารได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ ด้วยการกราบพระราชทานขออภัยโทษและยอมรับความผิดต่อพี่น้องประชาชน ด้วยการระงับการพิมพ์หนังสือพิมพ์เป็นเวลา 3 วัน ก็ถือว่าเป็นการแสดงสปิริตสูงสุดแล้วเท่าที่เคยมีมา ดังนั้นเมื่อเขาแสดงความรับผิดชอบ กลุ่มคาราวานคนจนก็ควรที่จะยุติเช่นกัน" นายสมพันธ์ กล่าวและว่า

แกนนำคาราวานคนจนที่ออกมาเรียกร้องให้หยุดพิมพ์หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก จนกว่าจะมีพระราชทานอภัยโทษนั้น เขาใช้อารมณ์จนเกินไป ความผิดพลาดแค่นี้ไม่ควรทำให้เป็นเรื่องใหญ่ และไม่ควรที่จะนำมาเชื่อมโยงกับสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ถ้าเขาไม่พอใจต่อการกระทำของผู้บริหารเครือเนชั่น ก็ไปฟ้องศาลได้ ซึ่งคดีนี้ไม่ใช่คดีรุนแรง ศาลก็จะเจรจาไกล่เกลี่ยและสามารถยอมความได้

นายสมพันธ์ กล่าวต่อว่า แกนนำคาราวานคนจนที่มาเชียร์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ควรจะยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย เหมือนที่รักษาการณ์นายกฯ พยายามพูดอยู่ตลอดเวลาว่า อย่าใช้กฎหมู่ไปข่มขู่กฎหมาย นอกจากนี้ม็อบคาราวานควรจะศึกษากติกาหรือธรรมเนียมที่สื่อมวลชนเขาปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เข้าใจถ่องแท้มากยิ่งขึ้น

ชี้"คมชัดลึก"ได้พิจารณาโทษตัวเองแล้ว

ผศ.นพ.สุชาติ อารีมิตร อดีตคณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า ที่ผ่านมาหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก ก็ออกมาแสดงความรับผิดชอบแล้ว แต่จะเป็นที่พอใจของคาราวานคนจนนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

"รู้สึกเห็นใจคมชัดลึกเหมือนกัน แต่ก็ขอชมว่าคมชัดลึกทำถูกต้องแล้วที่ออกแถลงการณ์ขออภัย และพิจารณาโทษตัวเองด้วยการหยุดพิมพ์ 3 วัน ส่วนเรื่องรายละเอียดคาราวานแก้จนจะให้หยุดพิมพ์ถึงวันไหน ก็เป็นความต้องการของเขา แต่สิ่งที่คมชัดลึกทำ ผมเห็นว่ามันสมเหตุสมผลแล้ว" ผศ.นพ.สุชาติ กล่าว

คปส.แถลงการณ์ด่วนกรณี"คม ชัด ลึก"

คณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ (คปส.) ได้ออกแถลงการณ์ขอชื่นชมในจิตวิญญาณแห่งวิชาชีพสื่อสารมวลชน รวมทั้งความพยายามในการคลี่คลายความขัดแย้งและแสดงความรับผิดชอบอย่างถึงที่สุด ของกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก รวมทั้งขอบคุณกลุ่มคาราวานคนจนที่ตระหนักในเหตุผลและยุติการคุกคามสื่อสารมวลชน ให้จบลงด้วยความเข้าใจอันดี

คปส. ขอให้สาธารณชนทำความเข้าใจกับเรื่องนี้อย่างรอบด้าน และให้กำลังใจสื่อสารมวลชนในการทำหน้าที่อย่างมั่นคงในสถานการณ์อันเลวร้ายทางการเมืองเช่นในภาวะปัจจุบันที่สื่อกำลังถูกคุกคามอย่างหนักหน่วง รอบด้าน ซับซ้อน ทุกรูปแบบ ขณะที่สื่อสารมวลชนทำผิดพลาด แต่ก็ออกมายอมรับความผิดรับผิดชอบต่อสังคม อย่างเต็มที่ แต่ขณะที่ผู้นำทางการเมืองแม้จะทำผิดพลาดแต่ไม่เคยมีปรากฎการณ์แสดงความผิดชอบต่อสาธารณชน