อาณัติยันม็อบพันธมิตรฯทำยอดใช้บีทีเอสพุ่งสูงสุดตั้งแต่ดำเนินการ

ศูนย์ประสานงานนักเรียน-นักศึกษา ขอเข้าพบ"วาสนา เพิ่มลาภ" เพื่อขอคำตอบ"ทักษิณ"ทำผิดกฏหมายเลือกตั้ง ด้าน"อาณัติ" เผยม็อบพันธมิตรฯทำยอดใช้บีทีเอสพุ่งสูดสุดตั้งแต่เปิดทำดำเนินการมา

อาคารศรีจุลทรัพย์ (30 มี.ค.)เวลา 14.30 น. ศูนย์ประสานงานนักเรียนนักศึกษาแห่งประเทศไทย ได้ขึ้นรถปราศรัยย่อย และเคลื่อนขบวนมายังบริเวณประตูทางเข้า-ออก ของรถยนต์ ด้านข้างอาคารศรีจุลทรัพย์ เพื่อเรียกร้องให้ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธานกกต. ออกมาพบกับผู้ชุมนุม เพื่อเจรจากรณี กกต.ควรวินิจฉัย ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย กระทำผิดตามกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ โดยระบุว่า กลุ่มแกนนำนักศึกษาเป็นเยาวชน ไม่อยากสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น จึงขอให้คนที่ทำงานในอาคารศรีจุลทรัพย์ ช่วยเดินไปบอกให้ พล.ต.ท.วาสนา เดินออกมาพบผู้ชุมนุม ทั้งนี้แกนนำนักศึกษาได้ตรวจรถยนต์ทุกคันที่ออกจากอาคารศรีจุลทรัพย์ เพื่อป้องกันไม่ให้ พล.ต.ท.วาสนา ซ่อนตัวออกไปกับรถของผู้อื่น

ด้านนายโพธิพงศ์ บรรลือวงศ์ ฐานะผู้รับมอบอำนาจจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเขต 3 จ.สมุทรสาครขึ้นกล่าวบนเวทีปราศรัยระบุว่า ตนขอคัดค้านการเลือกตั้งในเขต 3 จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นไปด้วยความไม่ชอบธรรมด้วยกฎหมาย หลังจากที่ กกต.ประกาศเปิดรับสมัคร สส.ใหม่ อีกครั้งในวันที่ 23-24 มี.ค. เนื่องจากเป็นการใช้อำนาจหน้าที่กำหนดให้เลือกตั้งใหม่ อย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะ กกต.ไม่มีอำนาจเปิดรับสมัครใหม่ ตราบใดที่การเลือกตั้งนั้นยังไม่ผ่านพ้นไป ซึ่งผิดมาตรา 245 (4) ดังนั้นตนในฐานะผู้รับมอบอำนาจ จึงขอใช้สิทธิ์คัดค้านการเลือกตั้งในเขต 3 จ.สมุทรสาคร และเรียกร้องให้ กกต.ยกเลิกเพิกถอนมิตที่ให้เปิดรับสมัคร ส.ส. ในเขต 3 ใหม่ รวมทั้งการยกเลิกการเลือกตั้งในวันที่ 2 เม.ย.นี้ด้วย

จากนั้นได้กล่าวกับผู้ชุมนุมว่าตนจะเข้าไปยื่นหนังสือคัดค้านการเลือกตั้งให้กับ กกต. แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยอมเปิดทางให้ จนมีนายสุรพงษ์ อนุสรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบุคคล กกต. เป็นตัวแทนลงมารับหนังสือ โดยชี้แจงว่า กกต.ทั้งหมด ไม่ได้อยู่ภายในอาคารศรีจุลทรัพย์ ทำให้นายชัยวัฒน์ สินสุวงศ์ ซึ่งปราศรัยอยู่บนเวทีขณะนั้น กล่าวว่า หาก กกต.ไม่รับหนังสือดังกล่าว จะนำผู้ชุมนุมบุกเข้าไปภายในตัวอาคารศรีจุลทรัพย์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริเวณทางออกของอาคารศรีจุลทรัพย์ ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมกั้นเอาไว้ พร้อมทั้งขอตรวจรถว่า พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธาน กกต.นั่งในรถด้วยหรือไม่ รวมทั้งให้เปิดฝากระโปรงท้ายรถ เพื่อดูว่า มีใครซ่อนอยู่หรือไม่ ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากคนที่อยู่ในตึก อย่างไรก็ตามปรากฏว่ามีรถของนายภูมิพิทักษ์ กรองแก้ว รอง ผอ.สำนักสืบสวนสอบสวน ไม่ยอมให้ตรวจค้น โดยอ้างว่า กลุ่มผู้ชุมนุมไม่มีสิทธิ ทางกลุ่มผู้ชุมนุมจึงกั้นทางเอาไว้ พร้อมนั่งลงขวางทางรถ ไม่ให้รถเคลื่อนออกไปได้ โดยนายภูมิพิทักษ์ และกลุ่มผุ้ชุมนุม ใช้เวลาโต้เถียงประมาณ 5 นาที นายภูมิพิทักษ์จึงยอมเปิดท้ายรถให้ตรวจ ทางกลุ่มผุ้ชุมนุมจึงยอมปล่อยออกไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธาน กกต. ไม่ได้อยู่ในอาคารศรีจุลทรัพย์แล้ว โดยออกจากอาคารด้วยการอาศัยมอเตอร์ไซด์ตำรวจออกไป ก่อนที่กลุ่มม็อบพันมิตรจะปิดทางเพื่อตรวจค้น

ด้านนายอาณัติ อาภาภิรม ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ(บีทีเอส) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 มี.ค.ซึ่งกลุ่มพันธมิตรกู้ชาติรวมตัวกันที่ถนนพระรามที่ 1 ห้างสนามพารากอน ทำให้ยอดผู้โดยสายรถไฟฟ้าบีทีเอสพุ่งสูงถึง 546,597 คน คิดเป็นรายได้ราว 11.5 ล้านบาท ถือเป็นสถิติใหม่หลังจากที่บริษัทเปิดดำเนินการมานาน 6 ปี 3 เดือน ทำลายสถิติยอดผู้โดยสารสูงสุด จำนวน 537,328 คน ในวันเปิดห้างพารากอน เมื่อ 9 ธ.ค. 2548 และถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทนำตั๋วโดยสารมาจำหน่ายนอกสถานีเป็นครั้งแรก เนื่องจากมีผู้โดยสารเป็นจำนวนมากจำเป็นต้องกระจายตั๋วให้ถึงมือโดยเร็วเพื่อจะได้ใช้บริการด้วยความสะดวกรวดเร็ว ซึ่งก็เป็นที่พอใจของทุก ๆ ฝ่าย อย่างไรก็ตามหากมีการชุมนุมในพื้นที่ดังกล่าวอีกครั้งบริษัทจะได้หารือเพื่อวางแผนการดำเนินการอีกครั้ง