นายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการป.ป.ช. กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของ ครม.ยิ่งลักษณ์ในโครงการรับจำนำข้าวว่า ขณะนี้เริ่มมีอดีตรัฐมนตรีทยอยส่งรายการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินมายังป.ป.ช.บ้างแล้ว คาดว่า ป.ป.ช.จะเปิดเผยต่อสาธารณชนได้ประมาณต้นเดือนหรือกลางเดือนก.ค.นี้ โดยอดีตรัฐมนตรีที่ป.ป.ช.จะต้องตรวจสอบข้อมูลบัญชีทรัพย์สินในทางลึกเป็นกรณีพิเศษ เพื่อหาความเชื่อมโยงเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวมีอยู่ประมาณ 4-5 คน คาดว่าในเร็วๆ นี้ คณะกรรมการป.ป.ช.จะแถลงความชัดเจนในการตั้งผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินฯของอดีตรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าวได้
ป.ป.ช.ลุยสอบ 5 อดีต รมต.ทำจำนำข้าวเจ๊ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินอดีต ครม.รัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่เกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวนั้น ป.ป.ช.จะไล่ตรวจสอบย้อนหลังไปดูตั้งแต่อดีตรัฐมนตรีรัฐบาลยิ่งลักษณ์ 1 จนถึงอดีตรัฐมนตรีชุดล่าสุดที่เพิ่งพ้นสภาพไป
โดยรัฐมนตรีที่อยู่ในข่ายที่ป.ป.ช.จะจับตาตรวจสอบเป็นพิเศษ อาทิ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีตรมช.พาณิชย์ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ นายยรรยง พวงราช อดีตรมช.พาณิชย์
ก่อนหน้านี้ในช่วงบ่าย ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน เข้าให้ถ้อยคำต่อกรรมการ ป.ป.ช.กรณีการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเพื่อประกอบสำนวนการดำเนินอาญาต่อน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวและระบายข้าว โดยเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ทางราชการตามที่มีอำนาจหน้าที่
โดยสมชาติ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าให้ถ้อยคำต่อกรรมการป.ป.ช. ว่า ไม่ได้เตรียมเอกสารชี้แจงอะไรเป็นพิเศษและให้ข้อมูลในทุกประเด็นที่ คณะกรรมการ ป.ป.ช.สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนที่กรมการค้าภายในรับผิดชอบ โดยเฉพาะกระบวนการรับจำนำข้าวเปลือกในภาพรวมทั้งหมด
โดยตนได้นำเอกสารการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ปี 2554 / ปี 2555 และ ปี 2556 ของรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ มอบให้เพื่อประกอบการให้ปากคำเพิ่มเติมด้วย ทั้งนี้ตนไม่ได้รู้สึกกังวลใจ เพราะเป็นการเข้าให้ข้อมูลตามข้อเท็จจริง เรื่องการตรวจสอบสต๊อกข้าวกรมการค้าภายในไม่ได้เป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง แต่เป็นหน้าที่ขององค์การคลังสินค้า(อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตร(อ.ต.ก.) ที่รับผิดชอบการตรวจสอบสต๊อกข้าวและการระบายข้าว