เปิดตัว "หมอยงยุทธ มัยลาภ" เสริมทีมโฆษก คสช. ดึงผู้ประกาศช่อง 11 ที่เป็นพลเรือนเข้าร่วม ให้สอดคล้องสถานการณ์ เตรียมใช้ช่องทางของทำเนียบฯ ทั้งเว็ปไซต์-เฟซบุ๊ก สื่อสารถึง ปชช.-ต่างชาติ "วินธัย" ยันใช้ กม.จัดการเด็ดขาดกลุ่มต้าน
เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. เวลา 13.30 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)
ได้ย้ายสถานที่แถลงข่าวประจำวันจากหอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ มายังตึกสันติไมตรีหลังนอก พร้อมเปิดตัวทีมงานโฆษกเพิ่มเติม โดยมีการเชิญ ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ ผู้ประกาศข่าวสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง5(ททบ.5) อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมตรีในรัฐบาลของพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และน.ส.ปัฐมาภรณ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต นักสื่อสารชำนาญการ และผู้ประกาศข่าวสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง11 กรมประชาสัมพันธ์ เข้ามาร่วมทีม ทั้งนี้ในการปรับรูปแบบการทำงานของทีมโฆษก คสช. โดยมีพลเรือนเข้ามาร่วมงานเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ แต่ผู้ที่จะให้ข่าวหลัก ๆ ยังเป็นพ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบกส่วนภาคภาษาอังกฤษขณะนี้กำลังประสานกับกระทรวงต่างประเทศเพื่อส่งคนมาทำงาน แต่ระหว่างนี้พ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกกองทัพบก จะยังคงทำหน้าที่ให้ข่าวสารภาคภาษาอังกฤษอยู่
พ.อ.วินธัย กล่าวว่า สำหรับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. จะเข้าทำงานที่ทำเนียบฯ หรือไม่นั้น
ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูล แต่ในส่วนของงานด้านประชาสัมพันธ์อาจจะเข้ามาทำงานบางส่วน เพื่อให้ครบองค์ประกอบด้านงานประชาสัมพันธ์ เนื่องจากทำเนียบรัฐบาลมีผู้สื่อข่าวประจำสายงานที่เหมาะสมกว่า สายงานด้านอื่น ๆ
โฆษก คสช. ยังกล่าวถึงการปฏิบัติงานด้านความมั่นคง ว่าจะมีการเข้มงวดการตรวจจับอาวุธสงคราม
ที่ขณะนี้มีการจับกุมเป็นระยะรวมถึงมีการนำมามอบให้กับทางราชการ ตามประกาศที่ 37 พร้อมกับชี้แจงถึงการต่อต้านของบางกลุ่มในขณะนี้ โดยย้ำว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย หากยังมีการฝ่าฝืนจะดำเนินการตามกฎหมาย โดยใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก สร้างความเข้าใจไปถึงการควบคุมตัว จึงขอประชาชนอย่าออกมาต่อต้านและขอให้เข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ ส่วนเสียงสะท้อนว่า คสช.มีการปิดกั้นสื่อนั้น ยืนยันว่า ไม่มีเจตนาที่จะกระทำเช่นนั้น โดยที่ผ่านมาพยายามจะทำให้เกิดผลกระทบกับประชาชนและผู้ประกอบการให้น้อยที่สุด และจะมีการผ่อนปรนให้เป็นระยะ ๆ ซึ่งการดำเนินการทุกอย่างเป็นมาตรการที่จำเป็นและได้ผ่านการพิจารณาแล้ว ยกเว้นสถานีดาวเทียม 14 ช่อง ที่ยังระงับการออกอากาศ
ซึ่งในวันที่ 4 มิ.ย.นี้จะเชิญทั้ง 14 ช่องมาหารือเพื่อหาทางออกร่วมกัน
อย่างไรก็ตาม ภายในสัปดาห์นี้ หัวหน้า คสช.จะชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนผ่านสถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 โฆษก คสช. ชี้แจงถึงการเรียกบุคคลเข้ามารายงานตัว ว่า ขออย่ามองว่าเป็นการกระทำผิด แต่เป็นการขอความร่วมมือและทำความเข้าใจ เพราะบุคคลเหล่านี้มีบทบาทต่อการแสดงความคิดของสังคม และขณะนี้ร้อยละ 80-90 ได้รับการปล่อยตัวแล้ว ส่วนการแสดงสัญลักษณ์ชู 3 นิ้ว จะมีความผิดหรือไม่นั้น ลักษณะการกระทำแบบนี้ต้องอยู่ในดุลยพินิจตามเงื่อนไขตามประกาศ คสช.ที่ห้ามชุมนุมเกิน 5 คน ส่วนกรณีอื่นก็ต้องดูตามความเหมาะสมต่อไป เพราะขณะนี้ทางฝ่ายความมั่นคงได้จับตามองแกนนำที่ต่อต้านรัฐประหารอยู่แล้ว
ด้านนพ.ยงยุทธ มัยลาภ ทีมโฆษก กล่าวว่า จากการประชุมแผนการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ จะมุ่งเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารสู่สาธารณะ
โดยจะใช้ช่องทางการของทำเนียบรัฐบาล ทั้งเว็ปไซต์ เฟซบุ๊ก และสื่อสิ่งพิมพ์ เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบ และเป็นช่องทางชี้แจงให้กับต่างชาติด้วย สำหรับการแถลงข่าวจะจัดขึ้นทุกวันที่ทำเนียบรัฐบาล และจะมีการประชุมระดับโฆษกกระทรวง เพื่อประสานการทำงานร่วมกัน
ด้าน น.ส.ปถมาภรณ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต กล่าวว่า ในส่วนของกรมประชาสัมพันธ์ จะมีจัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ในส่วนภูมิภาค
เพื่อสื่อสารทำความเข้าใจระหว่าง คสช.กับประชาชน ผ่านสื่อต่าง ๆ และทุกเย็น ในวันพฤหัสบดี จะใช้พื้นที่สวนของกรมประชาสัมพันธ์จัดดนตรีในสวนขึ้น โดยจะเริ่มตั้งแต่วันพฤหัสบดีนี้เป็นต้นไป.