นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ
กล่าวถึงการชี้แจงสถานการณ์การเมืองไทยของ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่แสดงจุดยืนของไทยในการประชุมสุดยอดด้านความมั่นคงเอเชีย หรือ "แชงกรีล่า ไดอะล็อก" ที่ประเทศสิงคโปร์ว่า
ไทยอยากให้ต่างประเทศพิจารณาการออกมาตรการตอบโต้การทำรัฐประหารในไทย โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ในทุกมิติ และความสัมพันธ์ในระยะยาว
โดยขณะนี้ มี 39 ประเทศที่ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในไทย และ 63 ประเทศที่ออกคำเตือนการเดินทางไปไทย ซึ่งนานาชาติจะนำโร้ดแมปที่นำไปสู่การปรองดอง และการเลือกตั้งของ คสช.ไปทบทวนมาตรการตอบโต้ไทย
นอกจากนี้ ไทยยังได้แสดงความผิดหวังต่อออสเตรเลีย จากกรณีที่ เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ที่ผ่านมา นางจูลี่ บิชอป (Julie Bishop) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของออสเตรีย ได้ออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลียว่า
"รัฐบาลออสเตรเลียได้พิจารณาและตัดสินใจ ลดระดับความสัมพันธ์และความช่วยเหลือด้านการทหาร จนกว่าประเทศไทยจะกลับสู่สถานการณ์ปกติ หลังจากได้แจ้งความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ในประเทศไทยต่อเอกอัครรราชทูตไทยประจำออสเตรเลีย และสถานทูตไทย ประจำกรุงแคนเบอร์ราไปแล้ว"
ขณะเดียวกัน ทางการออสเตรเลียยังได้เลื่อนกิจกรรมความช่วยเหลือทางการทหารแก่กองทัพไทยที่จะมีขึ้นในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าออกไปอย่างไม่มีกำหนดเช่นการฝึกใช้อาวุธระเบิดและการฝึกเพื่อป้องกันการก่อการร้าย
พร้อมกันนี้ ทางรัฐบาลประเทศออสเตรเลีย ยังได้วางมาตรการในการป้องกันการเข้าประเทศของผู้นำคณะรัฐประหารอีกด้วย
โดยในระหว่างการประชุม นายสีหศักดิ์ได้หารือกับรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ โดยแจ้งให้สหรัฐฯ คำนึงถึงภาพรวมความสัมพันธ์ทวิภาคี หลังจากสหรัฐฯ ตัดงบประมาณความช่วยเหลือด้านกลาโหม 320 ล้านบาท โดยไม่กระทบต่อบุคลากรไทย 36 คน ที่ยังศึกษางานด้านความมั่นคงในสหรัฐฯ ต่อไปได้ แต่จะไม่ได้ส่งบุคลากรชุดใหม่ไปศึกษาด้านกลาโหมในสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ในวันเดียวกันนายสีหศักดิ์เดินทางไปพบรัฐมนตรีต่างประเทศของพม่า ในฐานะประธานอาเซียน ซึ่งเป็นมาตรการเชิงรุกของไทยในการชี้แจงสถานการณ์การเมืองในเวทีโลก