เล็งยกเลิกเคอร์ฟิวสมุย-ภูเก็ตเมืองท่องเที่ยว

เล็งยกเลิกเคอร์ฟิวสมุย-ภูเก็ตเมืองท่องเที่ยว

เล็งยกเลิกเคอร์ฟิว'สมุย-ภูเก็ต'เมืองท่องเที่ยว หารือ'ชัชชาติ'รถไฟรางคู่ 

             
2มิ.ย.2557 พ.อ.ณัฐวัฒน์ จันทร์เจริญ รองโฆษก คสช. กล่าวถึงกรณีที่ต่างชาติห้ามพลเมืองเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ว่า สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในประเทศไทยประจำ มีความเข้าใจถึงสถานการณ์ ภาพภายนอกอาจจะมองว่าการยึดอำนาจเป็นอันตราย แต่สำหรับในประเทศไทยไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ทั้งนี้ คสช.ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานงานกับบริษัทท่องเที่ยว โดยผ่านทางมัคคุเทศก์ เพื่อให้ประชาสัมพันธ์ว่าการรัฐประหารในประเทศไทยไม่ได้ส่งผลกระทบ นักท่องเที่ยวยังใช้ชีวิตได้ตามปกติสุข

             
"ส่วนกรณีการท่องเที่ยวได้ขอให้ยกเลิกการประกาศเคอร์ฟิวนั้น ทางหัวหน้า คสช.ได้มอบนโยบายไปแล้ว โดยให้พิจารณาพื้นที่ไหน สถานที่ไหนที่ไม่ได้มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย หรือ แบ่งสีก็ให้เสนอมาเพื่อประเมินสถานการณ์และผ่อนปรน โดยได้มอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวไปดำเนินการ ซึ่งถือว่าเป็นนโยบายหลักที่ทางหัวหน้า คสช. ได้พูดขึ้นมาเองว่าจะให้ยกเลิกหรือปรับลดในพื้นที่ที่ไม่ได้ส่งผลกระทบอย่าง จ.ภูเก็ต และเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี" รองโฆษก คสช. กล่าว



พ.อ.ณัฐวัฒน์ กล่าวถึงในส่วนของโรดแม็พของงานด้านเศรษฐกิจซึ่งในที่ประชุมได้มุ่งเป้าไปที่งบค้างปี 2557

ที่มีเงื่อนไขติดขัดในข้อกฎหมายของการเบิกจ่ายงบประมาณ ซึ่งมีปริมาณพอสมควร และมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งงบดังกล่าวอยู่ในอำนาจการอนุมัติของคณะรัฐมนตรี หากมองภายในขณะนี้ก็อยู่ในอำนาจของ คสช. ส่วนจะดำเนินการโครงการทั้งหมดหรือชลอไว้ก่อน คาดการณ์ใช้เวลา 2 สัปดาห์ ถึงจะได้ข้อมูลที่ชัดเจน และเมื่อแก้ปัญหาในงบปี 2557 ไปแล้ว ก็จะเข้าสู่การพิจารณางบประมาณปี 2558 ทันที โดยจะเน้นเหตุผลความจำเป็น และการบริหารงบประมาณ และรายจ่ายประจำปีจะไม่ติดขัด เพื่อเป็นส่วนในการผลักดันกระตุ้นเศรษฐกิจ

             
พ.อ.ณัฐวัฒน์ กล่าวถึงโครงการเงินกู้สองล้านล้านบาท ว่า หัวหน้า คสช. ให้มีการดำเนินการในแนวทางเดียวกันกับกรณีกระทรวงศึกษาธิการ
 
โดยให้พิจารณาโครงการไหนดีก็ให้เริ่มก่อน โดยได้เน้นที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ และประชาชนให้การยอมรับ และผ่านการตรวจสอบในเรื่องของผลกระทบสิ่งแวดล้อมและทุกหน่วยงานไม่มีข้อขัดแย้ง พร้อมกับต้องทำประชาพิจารณ์ในเรื่องของคนที่ได้รับผลกระทบ

             
ในส่วนของรถไฟฟ้าความเร็วสูงให้ไปดูข้อดี-ข้อเสีย ทำแล้วคุ้มหรือไม่ การใช้แหล่งเงินทุนมาจากไหน และจะต้องไม่กระทบวินัยการคลัง

การก่อหนี้สาธารณะ ซึ่งอาจจะลงทุนร่วมกับเอกชน คาดว่าไม่น่าจะทันนำเสนอภายใน 2 สัปดาห์ แต่โครงการที่จะสานต่ออย่างแน่นอนก็คือรถไฟรางคู่ ส่วนเรื่องงบประมาณ ทางหัวหน้า คสช.ยังไม่ได้ตัวเลข แต่ได้ให้ทางสำนักงบประมาณไปดูว่าจะเอาเงินตรงไหนมาดำเนินการ รวมทั้งให้ทางการรถไฟไปหาพื้นที่ว่าจะใช้จุดไหนให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ซึ่งจะดำเนินการในปีนี้ โดยการศึกษาเส้นทางที่จะใช้ประโยชน์ได้มากที่สุด และการพัฒนาระบบรถไฟไทยเพื่อให้มีประสิทธิภาพเพิ่มความเร็วให้มากขึ้น ซึ่งทาง คสช.จะเรียก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม ซึ่งมาพูดคุยเพราะเป็นคนที่มีความรู้เพื่อจะได้ศึกษาในด้านต่าง ๆ

             
ส่วนเรื่องการบริหารจัดการน้ำนั้น ทาง คสช.จะไม่นำเอารูปแบบการบริหารการจัดการน้ำจำนวน 3.5 แสนล้านบาท มาใช้ทั้งหมด

แต่จะหยิบยกเป็นบ้างส่วน โดยจะเน้นไปที่โครงการที่เป็นเบี้ยหัวแตก เช่น การขุดบ่อน้ำหมู่บ้าน หากทำทั่วประเทศถึง 4,000 บ่อ บ่อละ 10 ล้านบาท จะใช้เงินจำนวนที่สูงพอสมควร ดังนั้นจะนำมาพิจารณาดูเรื่องการบริหารจัดการ ส่วนบริษัทที่ได้รับการคัดเลือกในรัฐบาลที่แล้วในการเข้ามาดำเนินการในโครงการบริหารจัดการน้ำนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ดูข้อมูลว่าเป็นอย่างไร

             
"คสช.เน้นย้ำในเรื่องการบริหารจัดการน้ำที่เป็นแนวทางพระราชทานมาดำเนินการเช่น โครงการแก้มลิง การขุดลอกคูคลอง ให้ทางกรมชลประทานไปดูแล พร้อมทั้งให้ทหารเข้าไปทำเช่นโครงการขุดบ่อตามหมู่บ้านทั่วประเทศ 4 พันแห่ง แห่งละ 10 ล้านบาท ช่วยในแง่กักเก็บน้ำ และป้องกันน้ำท่วม ที่ผ่านมาทางหน่วยทหารเข้าไปทำเยอะ ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล ซึ่งเราควบคุมได้ ราคาถูก เสร็จทันตามกรอบ โครงการไหนที่เร่วด่วนก็จะมีการจัดแบ่งทหารให้เข้าไปทำ ซึ่งจะลดการคอรัปชั่น ทาง หัวหน้า คสช. ได้บอกกับหน่วยงานต่างๆว่า หากหน่วยงานไหนไม่เข้าใจ สามารถยกโทรศัพท์มาหาท่านได้ตลอดเวลา เพราะท่านเป็นคนคิดเร็วทำเร็ว" พ.อ.ณัฐวัฒน์ กล่าว
 


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์