เปิดใจ พระอภินิติโก หรือ นิติภูมิ นวรัตน์ หลัง คสช. เรียกรายงานตัว

เปิดใจ "พระอภินิติโก" หรือ นิติภูมิ นวรัตน์ หลัง คสช. เรียกรายงานตัว

 ภายหลังจากประกาศของคณะ คสช. ฉบับที่ 36/2557 มีคำสั่งให้บุคคลเข้ารายงานตัว   โดยหนึ่งในรายชื่อนั้น มีชื่อของ ร.ต.อ.นิติภูมิ เนาวรัตน์   อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเพื่อไทย แต่หลังจากนั้นมีกระแสในโลกโซเชี่ยลว่า ร.ต.อ.นิติภูมิ  บวชเป็นพระอยู่ที่วัดบวรนิเวศวิหาร  ก่อนที่ช่วงเช้าของวันนี้(30พ.ค.) 

ร.ต.อ.นิติภูมิ หรือ พระอภินิติโก จะเดินทางไปรายงานตัวกับ คสช. ซึ่งเป็นการยืนยันว่าอยู่ในสมณเพศจริง  

มติชน ออนไลน์ ไปพบ พระอภินิติโก ณ คณะเขียวบวร วัดบวรนิเวศวิหาร เพื่อสอบถามถึงเรื่องราวต่างๆที่เป็นข้อสงสัย

 

Q : ทำไมท่านถึงบวชในเวลาช่วงนี้  มีข่าวลือขึ้นว่าท่านบวชเพราะหนีการรัฐประหาร

 

A : อาตมาบวชเป็นพระตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม แล้ว โดยเป็นการบวชก่อนเหตุการณ์รัฐประหารจะเกิดขึ้น   ตั้งใจจะบวชตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะอาตมาอยากไปสังเวชนียสถาน ที่อินเดียแบบอยู่ในสมณเพศ   เพราะเมื่อครั้งเป็นฆราวาสคนธรรมดา ได้ไปมาแล้วหลายครั้ง แต่มีคำกล่าวกันว่าหากได้ไปโดยอยู่ในผ้าเหลืองจะได้บุญมาก   จึงตั้งใจที่จะบวชเพื่อมีโอกาสไปยังสังเวชนียสถาน โดยอาตมาบวชเงียบๆ ไม่ได้บอกกล่าวถึงใคร รู้กันเองเพียงในครอบครัว จากนั้นก็บวชเลย ส่วนที่บวชในช่วงนั้นเพราะว่าอาตมา ว่างพอดี ไม่มีสิ่งใดต้องทำ เลยตัดสินใจบวชเลย และไม่ได้เป็นการบวชเพราะหนีการรัฐประหารอย่างแน่นอน เพราะบวชก่อนหน้านั้นหลายวัน

Q: แล้วท่านมีกำหนดสึกวันไหน 

 

A: จริงๆ ฤกษ์สึกของอาตมานั้นเป็นวันนี้ (30 พ.ค.) และในการสึกของวัดนี้นั้น ไม่ใช่สึกแล้วไปไหนก็ได้ เมื่อมีฤกษ์สึก ก็มีฤกษ์เข้าบ้าน แต่ในวันนี้ฤกษ์เข้าบ้านตรงกับฤกษ์ที่อาตมาต้องไปรายงานตัวกับ คสช. พอดี  ทำให้ต้องเลื่อนการสึกออกไป ตอนนี้พระผู้ใหญ่ก็กำลังดูฤกษ์สึกใหม่ให้อาตมาอยู่

Q: หลังจากท่านสึกแล้ว ยังต้องไปรายงานตัวกับ คสช. อีกหรือไม่ครับ

 

A: ไม่ต้องแล้ว อาตมากลับบ้านได้เลย เพราะวันนี้ถือว่าเป็นการไปทำความเข้าใจกันแล้วเรียบร้อย หลังจากสึกแล้ว อาตมาก็ไม่ต้องไปอีก 

 

Q: วันนี้จากที่ท่านได้คุยกับทหารเป็นอย่างไรบ้าง ท่านได้เจอพลเอกประยุทธ์หรือเปล่า 

A:  ไม่ได้เจอกับท่าน  แต่ได้คุยกับนายทหารหลายๆคน  ก็ดี ทหารเขาสุภาพให้เกียรติอาตมา คุยกันด้วยเหตุผล ทหารก็ถามอาตมาว่ามีแนวทางในเรื่องการเมืองต่อไปอย่างไร  อาตมาก็ยังยืนยันถึงแนวทางของอาตมา โดยพูดเสียงดังน่ะ ไม่ได้พูดเสียงเบา อาตมาก็พูดไปว่า ยังไงก็ต้องยึดมั่นระบอบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และไม่ควรจะครองอำนาจนานเกินไป หลังจากจัดระเบียบอะไรเรียบร้อยแล้ว ก็ควรเปิดโอกาสให้มีการเลือกตั้ง เพื่อจะนำพาไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์  ทหารก็รับฟังอาตมาน่ะ เข้าใจกับสิ่งที่อาตมากล่าว คุยกันเข้าใจกันง่าย เพราะอาตมาก็เคยเป็นตำรวจมา 

 

Q : ท่านเห็นด้วยการแนวทางนี้ของทหารหรือเปล่า ในเรื่องของการรัฐประหาร

A : อาตมาเองเข้าใจทหาร เพราะบ้านเมืองไม่มีทางออกจริงๆ ทหารจึงต้องออกมาทำเช่นนี้ ก็น่าจะทำให้อะไรดีขึ้น แต่ยังไงท้ายที่สุดต้องยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยที่ถูกต้อง จึงจะเป็นแนวทางที่เดินไปได้ด้วยกัน

 

Q: แล้วหลังจากสึกแล้วท่านจะทำงานการเมืองต่อหรือไม่

A: แน่นอน อาตมาเป็นพระโกหกไม่ได้ เกิดมาเพื่อเป็นนักการเมือง ยังไงก็ต้องทำงานการเมืองต่อไปแน่นอน

 

Q: มีคนสงสัยกันเยอะในการที่ท่านไปบวช เพราะมีกระแสข่าวมาว่าท่านเป็นมุสลิม

A: อาตมาเป็นพุทธ ไม่อย่างนั้นจะบวชได้หรือ  เป็นเด็กวัดตั้งแต่เด็กจนโต เป็นประธานทอดกฐินอยู่เสมอ และในปีนี้อาตมาได้เป็นคนแรกที่รับผ้ากฐินจากในหลวง

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน