ท่อน้ำเลี้ยงลอตใหญ่ สะท้อนนัย รบยืดเยื้อ

แม้จะไม่มีหลักฐานใบเสร็จ ชนิดจับได้คาหนังคาเขาอย่างชัดเจน


สำหรับกระแสข่าวกรณีขั้วอำนาจเก่าเปิดปฏิบัติการรุกอีกยก "ต่อท่อน้ำเลี้ยง" ลอตใหญ่มายังอดีต ส.ส.ของพรรค และบรรดาหัวคะแนนในพื้นที่ต่างๆ กลายเป็นเชื้อไฟชนิดแรง ที่เพิ่มอุณหภูมิการเมืองให้ร้อนแรงมากขึ้นทุกขณะ

ล่าสุดรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ ออกมายืนยันของวอร์รูมประชาสัมพันธ์เชิงรุกของรัฐบาล ว่าตรงกับรายงานของ ปปง.ที่แจ้งมาในก่อนหน้านี้

ตอกย้ำด้วยคำพูดของ ประสาร มฤคพิทักษ์ ในฐานะคณะกรรมการประชาสัมพันธ์ในภาวะวิกฤติและประชาสัมพันธ์เชิงรุก (วอร์รูม) จุดพลุให้จับตา 4 จังหวัดภาคเหนือ


รับน้ำเลี้ยงขนคนเข้ากรุง!!!


"ขณะนี้กลุ่มต่างๆ เปลี่ยนวิธีการเดินทางจากการเช่าเหมาโบกี้รถไฟ หรือการเช่าเหมาคันรถโดยสาร มาเป็นการกระจายการเดินทาง โดยการให้ค่าเดินทางกับผู้ร่วมการเดินทาง โดยมีค่าใช้จ่ายให้คนละ 200-300 บาทต่อวัน

เป็นที่น่าสนใจว่า ขณะนี้ยุทธศาสตร์การเกณฑ์คนเปลี่ยนเป้าหมายจากที่เคยระดมมาจากทางภาคอีสาน แต่ขณะนี้เปลี่ยนยุทธวิธีมาระดมที่พื้นที่ในภาคเหนือ ซึ่งขณะนี้ฝ่ายความมั่นคงได้สั่งจับตาเป็นพิเศษ คือ จ.เชียงใหม่ เชียงราย น่าน และลำพูน"

นี่คือคำสาธยายอย่างเป็นเรื่องเป็นราวของ "ประสาร" เพื่อตอกย้ำข่าว "ท่อน้ำเลี้ยง" ให้มีน้ำหนักสอดรับกับสถานการณ์ในจังหวะเวลานี้

อย่างไรก็ดีแม้ว่ามุมหนึ่งจะถูกมองว่ารายงานข่าวจาก ปปง.อาจเป็นเพียงข่าวปล่อยจาก "มือมืด" ที่ต้องการใช้ ปปง.เป็นเครื่องมือของรัฐบาลและ คมช.

ยัดเยียดความผิดมาให้ "ขั้วอำนาจเก่า" ซึ่งในที่นี้จะมีความหมายอื่นใดไม่ได้นอกจากคนชื่อ "ทักษิณ ชินวัตร" และพรรคไทยรักไทย

ไม่นับบรรดาอดีต ส.ส.แกนนำพรรคไทยรักไทย พีทีวี ที่เรียงหน้ากันออกมาจวกรัฐบาล ว่าปั้นแต่งข้อมูลเพื่อต้องการสร้างสถานการณ์

แต่ในมุมของ "อดีตบิ๊กไทยรักไทย" และอดีตเจ้าของมุ้งใหญ่อย่าง "สมศักดิ์ เทพสุทิน" ที่ออกมาฟันธงในฐานะคนวงในว่าเป็นไปไม่ได้

สอดรับกับความเห็นอดีต ส.ส.ไทยรักไทยหลายคน ที่มองว่า หากมีการจ่ายเงินรายละ 3 ล้านให้ ส.ส.ทุกคนเพื่อเคลื่อนไหวในพื้นที่ ไม่มีทางเป็นไปได้ แต่หากเป็นการจ่ายเงินลอตใหญ่ที่จ่ายให้เพียงแกนนำ "บางคน-บางกลุ่ม" เพื่อเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างการระดมคนมาชุมนุมนั้น


น่าจะมีเหตุผลกว่า!!!


สรุปก็คือหากเป็นข่าวปล่อยเพื่อดักทาง "ขั้วอำนาจเก่า" ที่กำลังคิดการใหญ่เพื่อหวังหวนคืนสู่อำนาจ ก็ไม่น่าจะเป็นรูปแบบที่เกินจริง

ไม่ใช่จะไม่มีมูลความจริงซะทีเดียว!

เพราะในจังหวะที่สถานการณ์การเมืองดูเหมือนกำลังใกล้สุกงอม "รัฐบาลและ คมช." กำลังถูกปัญหาต่างๆ รุมเร้า มวลชนง่ายต่อการถูกปลุกระดมให้เลือกข้าง

ขณะที่ "เครือข่ายขั้วอำนาจเก่า" ก็ยังไม่ได้สูญสลาย เผลอๆ อาจมีพลังลุกฮือมากขึ้นกว่าเก่า

บวกกับชะตากรรมของ "นายใหญ่" รวมถึงรัฐมนตรีหัวโจกหลายราย กำลังขึ้นเขียงรอให้ คตส.เชือดเรียงตัว

มันก็เป็นไปได้เหมือนกันที่จะเกิดรายการ "ป่วนการเมือง" ให้ถึงที่สุด

โดยเฉพาะบรรดากลุ่มมุ้งการเมืองประเภท "เลือดแท้" ที่พร้อมด้วยกำลังเงินและกำลังคนต่างรอจังหวะออกมา "วัดกำลัง" กับ คมช.และรัฐบาลอีกครั้ง

โฟกัสไปที่กลุ่มวังจันทร์ส่องหล้าของ "นายใหญ่" นี่แหละ ที่เป็นกองกำลังสำคัญ

แม้เจ้าตัวจะระเห็จอยู่ต่างแดน มีชนักปักหลังรอคิวเชือดอีกหลายคดี แต่ว่ากันว่า "กลุ่มจันทร์ส่องหล้า" นี่แหละ ที่ทำหน้าที่ไม่ต่างอะไรกับ "ตู้เซฟเคลื่อนที่" ซึ่งรับบัญชาการสายตรง

ทำหน้าที่ส่งกระสุนดินดำน้ำเลี้ยง ทั้งรายเดือนและตามแต่ "ภารกิจ" ด้วยจำนวนเงินต่อภารกิจ

ในจำนวนหลัก 5-10 ล้าน!!!


ประสานผ่านแกนนำวังบัวบานของ


"เจ๊แดง" เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ อดีตประธาน ส.ส.ภาคเหนือ และน้องสาวของ "ทักษิณ"

ที่สำคัญยังมีกระแสด้วยว่า ภายหลังจากน้องชายอีกคนของ "ทักษิณ" ที่ชื่อ พายัพ ชินวัตร กลับจากเยี่ยมเยือนพี่ชาย ก็ได้ทำให้ข่าว "ท่อน้ำเลี้ยง" กระจายเป็นวงกว้างขึ้นทันที

นอกจากนั้นยังรวมถึงมือขวาฝ่ายปฏิบัติการอย่าง "กลุ่มบุรีรัมย์" ของ เนวิน ชิดชอบ และ ยงยุทธ ติยะไพรัช เป็นมือขวาสายเหนืออีกคน

แม้จะถูกจับตาจาก "ฝ่ายทหาร" ติดตามความเคลื่อนไหวแทบทุกฝีก้าว จนต้องแยกย้ายกบดานกันไกลถึงนอกประเทศ

แต่ก็มีกระแสข่าวมาว่าองค์กรและกลุ่มการเมืองที่ออกมาเคลื่อนไหวชุมนุมในระยะหลัง ได้รับ"ใบสั่งสายตรง"

ให้เดินหน้ารอรับการกลับมาผงาดของ "นายใหญ่" อย่างเต็มพิกัด

จากท่อน้ำเลี้ยงที่อัดฉีดผ่านอดีตแกนนำกลุ่มดังกล่าว ขณะเดียวกันก็เป็นมือวางแผนในส่วนของยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนและจัดสรรกำลังคนด้วย

ไม่นับกลุ่ม กทม. ของ "เจ๊หน่อย" สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่ผนึกกำลังรอให้สถานการณ์เขม็งเกลียว

โดยเฉพาะเครือข่ายพีทีวีของสี่สหาย "วีระ-จตุพร-ณัฐวุฒิ-จักรภพ" ที่เตรียมเปิดแนวรุกนำร่อง เดินเกมนอกพรรค โดยสำคัญจัดชุมนุมใหญ่ขึ้นในวันที่ 27 เมษายนนี้

สอดรับกับกระแสข่าวก่อนหน้าที่ระบุว่าท่อน้ำเลี้ยงลอตแรกนั้น มีทั้งในส่วนของเงินเดือนอดีต ส.ส.และค่าใช้จ่ายในการระดมมวลชนและสรรพกำลังทั้งหลาย โดยดำเนินการผ่านแกนนำพรรคใหญ่แต่ละสาย ที่แยกกันทำงานอย่างเป็นระบบ


ยากเกินจะหาใบเสร็จ แต่มีเป้าหมายเดียวกัน


นั่นคือ "ถล่มรัฐบาลและ คมช." ให้เร็วและเนียนที่สุด

ไม่เพียงแค่ท่อน้ำเลี้ยงจะถูกอัดฉีดผ่านเครือข่ายเครือญาติ หากเครือข่ายพันธมิตรอย่าง "คนโตเมืองนนท์" ก็เคยตกเป็นข่าวว่าได้รับน้ำเลี้ยงก้อนโตมาก่อนหน้านี้แล้ว

เครือข่ายม็อบป่วนเมืองหนนี้ แม้อาจดูเหมือนคนละพวก คนละกลุ่ม เข้าลักษณะ "น้ำแยกสาย ไผ่แยกกอ"

แต่สุดท้ายแล้วก็มีเป้าหมายและเครือข่ายที่รวมศูนย์เดียวกัน

ลงว่าตีปี๊บทุ่มทุนกันขนานใหญ่ บวกกับกระแสเตรียมควักเงินก้อนโตซื้อทีมฟุตบอลดัง

มันย่อมส่งนัยให้เห็นชัดๆ อยู่แล้ว

ยังไงหน้าตักก็ยังไม่พร่อง สู้ได้อีกหลายยก!!!



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์