อดีตสว.ค้านสว.แต่งตั้ง-เตือนปชช.ค้านอาจขัดแย้งรุนแรง

อดีตสว.ค้านสว.แต่งตั้ง-เตือนปชช.ค้านอาจขัดแย้งรุนแรง


"ส.ว.อกหัก" โวย รธน.ให้สรรหาสภาสูง ขู่ปลุกมวลชน คว่ำประชามติ โวย กมธ.ยกร่างฯ เมินเสียงประชาชน

อดีตสมาชิกวุฒิสภา ปี 2549 ที่ถูกยุบทิ้งจากการรัฐประหารเมื่อ 19 ก.ย. กว่า 10 คน นำโดยนายสิริวัฒน์ ไกรสิน อดีตส.ว.นครศรีธรรมราช ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายพิเชียร อำนาจวรประเสริฐ สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ

ขอให้มีการแปรญัตติในประเด็นที่มา ส.ว.ให้มาจากการเลือกตั้ง และให้คงจำนวน 200 คนไว้เช่นเดียวกับรัฐธรรมนูญปี 2540


นายสิริวัฒน์ กล่าวว่า พวกเราส.ว.ปี 2549 ได้ประชุมกันมีความเห็นว่า


รัฐธรรมนูญร่างแรกนั้นมีเนื้อหาที่บิดเบือนเจตนารมณ์ของปประชาชนอย่างชัดแจ้ง ไม่สอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตย โดยเฉพาะประเด็นที่มาของวุฒิสภานั้น มีข้อมูลการสำรวจความเห็นประชาชน จากที่จัดทำโดยหลายองค์กร ยืนยันว่า

ประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่า ควรจะให้มาจากการเลือกตั้งโดยตรงรูปแบบเดียวกับปี 2540 ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สถาบันพระปกเกล้า

แม้แต่ข้อมูลที่จัดทำโดยคณะกรรมาธิการวิสามัญประสานการมีส่วนร่วมและการประชามติ ที่มีนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง เป็นประธาน ทั้ง 3 ครั้ง พบว่าประชาชนกว่า 60 เปอร์เซนต์เห็นว่า ส.ว.ควรจะมาจากการเลือกตั้งทั้งหมด

ส่วนการแต่งตั้งนั้นประชาชนเห็นด้วยเพียงไม่ถึง 10 เปอร์เซนต์ และไม่เห็นด้วยที่จะบอกว่า ให้รับไปก่อนแล้วแก้ทีหลังในเมื่อเห็นว่าผิดพลาดก็ควรจะแก้ไขเสียก่อน

นายสิริวัฒน์กล่าวว่า ที่ผ่านมานายนรนิติ เศรษฐบุตร ประธานส.ส.ร. เคยรับปากว่ากับกลุ่มพวกเราว่า จะร่างรัฐธรรมนูญโดยยึดหลักประชาธิปไตย และจะฟังความเห็นประชาชน

แต่สุดท้ายคำพูดเหล่านั้นเป็นแค่ลมปาก เพราะเนติบริกรที่อยู่บนหอคอยงาช้าง หรือนักวิชาการที่พยายามสร้างความชอบธรรมให้กับผู้สืบทอดอำนาจ และยังมองว่าประชาชนโง่ไม่สามารถจะเลือกผู้แทนที่ดีได้ โอนอำนาจของปวงชนไปให้กับคณะบุคคลเพียงไม่กี่คน

เป็นการละเมิดเจตนารมณ์ของประชาชนอย่างชัดแจ้ง สะท้อนให้เห็นว่าการรับฟังความเห็นของส.ส.ร. เป็นเพียงพิธีกรรมทางการเมืองที่ไม่มีผลต่อการตัดสินใจใดๆในร่างรัฐธรรมนูญ


"ที่ผ่านมาพวกเราซึ่งเป็นผู้แทนในพื้นที่แม้มีมวลชน


แต่ก็ไม่เคยเคลื่อนไหวอะไรเพราะไม่ต้องการซ้ำเติมสถานการณ์บ้านเมือง แต่ถึงวันนี้จะเงียบไม่ได้เพราะรัฐธรรมนูญนี้ละเมิดเจตนารมณ์ประชาธิปไตย ซึ่งการที่ 35 อรหันต์ร่างกันอย่างนี้ ทำให้สถานการณ์เข้าสู่ความสุ่มเสี่ยง

เพราะประเด็นส.ว.จะเป็นเรื่องใหญ่ ทำให้ประชาชนไม่พอใจ และจะคว่ำประชามติ ซึ่งถ้าประชามติถูกคว่ำจริง ทั้งส.ส.ร. กมธ.ยกร่างฯและคมช.ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่าย 2 พันล้านที่เสียไปโดยเปล่าประโยชน์

และอย่าหวังว่าเมื่อประชามติไม่ผ่าน แล้วจะมีความชอบธรรมที่จะไปหยิบรัฐธรรมนูญฉบับใดมาใช้เพราะสถานการณ์อาจจะไม่เปิดโอกาสให้ท่านทำอย่างนั้นได้

ถึงวันนั้นประชาชนจะไม่ยอมแล้วจะเกิดความขัดแย้งรุนแรงมีการชุมนุมบานปลายไม่รู้ว่าคมช.จะทำอย่างไร" นายสิริวัฒน์ กล่าว



ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพ จาก หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์