บก.เนชั่น ระบุทีมข่าวหน้า 1 คมชัดลึก เลินเล่อ สั่งออก 1 ราย

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 30 มีนาคม 2549 06:29 น.

บรรณาธิการเนชั่นระบุ ทีมข่าวหน้า 1 ประมาทเลินเล่อ รับข่าวจากผู้สื่อข่าวในสนามพลาด สั่งให้ออกทันที 1 ราย ย้ำไม่เกี่ยวกับการกดดันจากกลุ่มคาราวานคนจน พร้อมวอนอย่าเอาความผิดพลาดในครั้งนี้ไปเป็นเครื่องมือทางการเมืองของกลุ่มใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 02.30 น. นายเทพชัย หย่องบรรณาธิการเครือเนชั่น พร้อมด้วยนายก่อเขต จันทเลิศลักษณ์ บรรณาธิการหนังสือพิมพ์คมชัดลึก ร่วมกันแถลงข่าวกรณีทางหนังสือพิมพ์ได้แสดงความรับผิดชอบที่ตีพิมพ์ข้องความให้สัมภาษณ์ของนายสนธิ ลิ้มทองกุลแกนนำผิดพลาด ในหนังสือพิมพ์คมชัดลึก ฉบับวันที่ 24 มีนาคม 2549 ส่งผลให้เกิดระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท

นายก่อเขต กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเกิดจากความประมาทเลินเล่อของเจ้าหน้าที่ทีมข่าวหน้า 1 ที่รับข่าวจากผู้สื่อข่าว และนำข้อความการให้สัมภาษณ์ของนายสนธิมาตีพิมพ์อย่างไม่ครบถ้วน ทำให้เป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท ดังนั้น เพื่อแสดงความรับผิดชอบ ตัวนายก่อเขตเองได้ลาออกจากตำแหน่ง นอกจากนี้ยังได้เข้ายื่นหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษต่อสำนักราชเลขาฯ เป็นที่เรียบร้อบแล้ว นอกจากนี้ เพื่อแสดงความสำนึกต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ทางกอง บก.คม ชัด ลึก ได้งดการตีพิมพ์และจำหน่ายหนังสือพิมพ์เป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่ 31 มี.ค.-2 เม.ย.

นายเทพชัย กล่าวต่อว่า สำหรับความผิดพลาดครั้งนี้ กอง บก.ได้ตั้งทีมสอบสวนจากบรรณาธิการอาวุโสหลายท่านของเครือเนชั่น ซึ่งการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ข่าวหน้า 1 ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ออกจากตำแหน่งทันที 1 ราย เพื่อรอการสอบสวนต่อไป

อย่างไรก็ตาม นายเทพชัย กล่าวว่า การตัดสินใจแสดงความรับผิดชอบร่วมกันของกอง บก.ในครั้งนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องจากการถูกกดดันโดยกลุ่มผู้ชุมนุมคาราวานคนจน และขอเรียกร้องอย่าให้ผู้ใดผู้หนึ่งนำความผิดพลาดของ นสพ.คมชัดลึก ในครั้งนี้ไปเป็นประเด็นในทางการเมือง

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 30 มีนาคม 2549 11:32 น.

คาราวานคนปิดล้อม คมชัดลึก ห้าม พนง.เข้าออกตึก"เนชั่น"เด็ดขาด กดดันให้ปิดหนังสือพิมพ์จนกว่าจะได้รับพระราชทานอภัยโทษ พร้อมเรียกร้องให้แสดงหลักฐาน โดยเฉพาะเทปคำให้สัมภาษณ์นายสนธิ ลิ้มทองกุล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (30 มี.ค.) เวลา 10.20 น. ที่หน้าอาคารเนชั่นทาวเวอร์ กลุ่มคาราวานคนจนประมาณ 1,000 คน นำโดยนายอรรถฤทธิ์ สิงห์ลอ ได้นำสมาชิกประมาณ 1,000 คนมาชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้ หนังสือพิมพ์คมชัดลึก รับผิดชอบกรณีตีพิมพ์ข่าวที่หมิ่นสถาบันเบื้องสูง พร้อมกับได้ตั้งเต็นท์จำนวน 3 เต็นท์ และอุปกรณ์หุงหาอาหารมาพร้อมเพื่อปักหลักชุมอย่างต่อเนื่องและได้ทำการปิดล้อมอาคาร ไม่ให้พนักงานผ่านเข้าออกเด็ดขาด

พร้อมกันนี้ได้นำพวงหรีด 4 อันมาวาง และเขียนข้อความไว้อาลัยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก โดยมีรถ 6 ล้อ 2 คัน ติดป้ายคาราวานคนจน และเครื่องขยายเสียงมาปราศรัยโจมตีด้วย

ทั้งนี้ นายอรรถฤทธิ์ได้กล่าวผ่านโทรโข่งเรียกร้องให้หนังสือพิมพ์คมชัดลึกรับผิดชอบ และเรียกร้องให้แสดงหลักฐาน โดยเฉพาะเทปที่สัมภาษณ์ว่านายสนธิได้ให้สัมภาษณ์ดังที่ปรากฏในหนังสือพิมพ์จริงหรือไม่ และประกาศเรียกร้องให้ปิดหนังสือพิมพ์จนกว่าจนจะได้รับพระราชทานอภัยโทษจึงจะให้เปิดดำเนินการได้

มาครั้งนี้เพื่อแสดงความจงรักภักดีของคนไทยที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ นายอรรถฤทธิ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 30 นายได้มาคอยดูแลความรักษาความปลอดภัยในการชุมนุมเรียบร้อยแล้ว

ส่วนกองบรรณาธิการคมชัดลึก จะเดินทางไปยื่นหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษ โดยผ่านประธานองคมนตรี ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ ในวันนี้

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 30 มีนาคม 2549 08:15 น.

กลุ่มผู้ชุมนุมคาราวานคนจน ประกาศจะชุมนุมหน้าอาคารเนชั่น ทาวเวอร์ ในวันนี้อีกครั้ง ชี้แถลงการณ์ปิดตัวเองของ คมชัดลึก ไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหา เรียกร้องกองบรรณาธิการตอบคำถามคาใจ 4 ข้อ ขณะที่ เทพชัย หย่อง ยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ระบุทาง นสพ.ได้ใช้มาตรการลงโทษกับผู้กระทำความผิดเหมาะสมแล้ว

วันนี้ (30 มี.ค.) เวลา 06.50 น. นายชินวัฒน์ หาบุญพาด นายกสมาคมพิทักษ์ผลประโยชน์ผู้ขับรถแท็กซี่ เปิดเผยถึงกรณีที่กองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ คมชัดลึก ออกแถลงการณ์ขอปิดตัว 3 วัน เพื่อแสดงความรับผิดชอบภายหลังได้ตีพิมพ์ข้อความระคายเคืองเบื้องพระยุคบาท ผ่านรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ โดยมีนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา เป็นผู้ดำเนินรายการ

โดย นายชินวัฒน์ เปิดเผยว่า ตนยังไม่เชื่อว่าคมชัดลึกจะมีความจริงใจในการแก้ไขปัญหา เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดพลาดจากตัวหนังสือ ดังนั้น จึงขอเรียกร้องหนังสือพิมพ์คมชัดลึก 4 ข้อ ดังต่อไปนี้ 1.ขอให้หนังสือพิมพ์คมชัดลึกเปิดเผยว่า ใครผิดระหว่างหนังสือพิมพ์คมชัดลึก หรือนายสนธิ ลิ้มทองกุล 2.ให้หาตัวผู้ที่กระทำความผิดมาลงโทษ 3.ขอให้ปิดหนังสือพิมพ์จนกว่าจะมีพระราชทานอภัยโทษ และ 4.ผู้บริหารควรลาออกให้หมด

ต่อคำถามของนายสรยุทธ ที่ถามว่า ทำไมไม่รอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการไปตามกฎหมาย นายชินวัฒน์ ตอบว่า การดำเนินคดีก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมาย แต่ทางกลุ่มคาราวานคนจนก็จะเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้หนังสือพิมพ์คมชัดลึกหาตัวผู้กระทำความผิดออกมาเปิดเผยอีกทางหนึ่งให้ได้ โดยวันนี้ก็จะเดินทางไปเคลื่อนไหวที่หน้าตึกเนชั่นเพื่อทวงถามข้อเท็จจริงอีกครั้ง

ผู้ดำเนินรายการได้สอบถามถึงการยุติการชุมนุมของกลุ่มคาราวานคนจน ภายหลังกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ประกาศสลายการชุมนุม แล้วประกาศกลับมาชุมนุมอีกครั้งในวันที่ 7 เมษายน นายชินวัฒน์ ตอบว่า คาราวานคนจนยังยืนยันที่ชุมนุมอยู่ที่สวนจตุจักรจนถึงวันที่ 31 มีนาคม จากนั้นจะยุติการชุมนุมเพื่อเปิดโอกาสให้แนวร่วมกลับไปเลือกตั้งในวันที่ 1-2 เมษายน

อย่างไรก็ตาม เมื่อดูจากการประกาศของกลุ่มพันธมิตรฯ ก็เห็นว่าไม่ได้ประกาศยุติการชุมนุม เป็นเพียงยุติชั่วคราวแล้วนัดกลับมาชุมนุมอีกครั้งในวันที่ 7 เมษายน ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการยุติการชุมนุมเป็นการหยุดเพื่อกลบเกลื่อนความผิดของหนังสือพิมพ์ หยุดเพื่อตั้งหลักหลังจากเกิดกระแสต่อต้านจากทุกฝ่ายอย่างหนัก ดังนั้น กลุ่มคาราวานคนจนก็จะกลับมาชุมนุมที่หมู่บ้านคนจนภายในสวนจตุจักรอีกครั้งอย่างแน่นอน

จากนั้น นายสรยุทธได้ติดต่อนายเทพชัย หย่อง บรรณาธิการเครือเนชั่น เพื่อสอบถามถึงการออกแถลงการณ์ดังกล่าว โดยนายเทพชัย เปิดเผยว่า ความผิดที่เกิดขึ้นในหนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก ฉบับวันที่ 24 มีนาคมนั้น เป็นความผิดของทางหนังสือพิมพ์เองที่นำคำสัมภาษณ์ของนายสนธิ ลิ้มทองกุล หนึ่งในแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไปตีพิมพ์ไม่ครบถ้วน

นอกจากนี้ บรรณาธิการเครือเนชั่นยังให้สัมภาษณ์อีกว่า การลงโทษด้วยการปิดหนังสือพิมพ์เป็นเวลา 3 วัน และให้เจ้าหน้าที่ที่พบว่ามีความผิดออกจากตำแหน่งนั้นนับได้ว่าเป็นการแสดงออกอย่างเหมาะสม และรุนแรงที่สุดในสถานการณ์เช่นนี้แล้ว

นายเทพชัยยังยืนยันว่า ทางคมชัดลึกมีความจงรักภักดีไม่แพ้คนไทยคนอื่นๆ ซึ่งสามารถดูได้จากการรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์ในช่วงที่ผ่านมา และยังยินดีที่มีคนออกมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลับถูกคนบางกลุ่มนำไปใช้เป็นเงื่อนไขทางการเมือง

ส่วนเรื่องที่กลุ่มคาราวานคนจน และกลุ่มอาชีพต่างๆ ยังคงยืนยันว่าจะเดินทางมาที่สำนักงานเนชั่นนั้น บรรณาธิการเครือเนชั่นให้สัมภาษณ์ว่า พร้อมต้อนรับกลุ่มคาราวาน และจะแจ้งให้กับทางคาราวานคนจนได้ทราบตามที่ทางหนังสือพิมพ์คมชัดลึกได้แถลงการณ์ไปก่อนหน้านี้