มัชฌิมา ห่วงรธน.ปี 50 โอกาสล่มมีสูง

ที่ศูนย์ประสานงานกลุ่มมัชฌิมา วันนี้ (20 เม.ย.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน หัวหน้ากลุ่มมัชฌิมา แถลงภายหลังการประชุมประจำสัปดาห์ ว่า จากการหารือถึงการยกร่างแรกรัฐธรรมนูญ 2550 พบว่ามีทั้งจุดอ่อนและจุดแข็ง

โดยจุดอ่อนประกอบด้วยการแบ่งเขตเลือกตั้งแบ่งเขตเรียงเบอร์ ที่จะทำให้แยกไม่ได้ว่า ส.ส.คนใดเป็นตัวแทนที่แท้จริงในเขตนั้น และจะมีค่าใช้จ่ายสูงเป็นช่องทางให้นายทุนเข้ามาร่วมกับ ส.ส.เพื่อที่จะให้ชนะการเลือกตั้ง การกำหนดให้ส.ว.มาจาการสรรหาโดยกลุ่มบุคคลไม่กี่คน และมาตรา 68 ที่กำหนดให้ประมุข 8 องค์กรทำหน้าที่เป็นคณะผู้แก้ไขวิกฤตชาติ

ซึ่งมีเสียงคัดค้านว่าคำว่าวิกฤตมีคำจำกัดความอย่างไร เหตุการณ์ใดจึงเรียกว่าเกิดวิกฤต รวมทั้งมาตรา 299 ที่เป็นการเขียนนิรโทษกรรม คมช.และกลุ่มต่างๆ

การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐโดยประชาชนที่สามารถเข้าชื่อ 2 หมื่นรายชื่อ ยื่นตรวจสอบและเสนอกฎหมาย การรับรองสิทธิของชุมชนต่างๆ การเปิดกว้างให้ประชาชนรับรู้ข่าวสารของทางราชการซึ่งจะช่วยทำให้ผู้ที่ทุจริตปกปิดข้อมูลต้องถูกเปิดเผยและการคอรัปชั่นจะไม่เกิดขึ้น

เพราะการตรวจสอบมีความชัดเจนและทำได้มากขึ้นรวมถึงการรับรองสิทธิของประชาชนตามกระบวนการยุติธรรมในคดีอาญา

หัวหน้ากลุ่มมัชฌิมายืนยันว่า กลุ่มมัชฌิมาประสงค์ให้รัฐธรรมนูญผ่านประชามติ เพราะจะทำไม่ให้ถูกตราหน้าว่า นักการเมือง ประชาชน ส.ส.ร. เป็นกลุ่มคนที่ทำให้เกิดความล้มเหลว และหากต้องการให้กลุ่มเป็นผู้ประสานแนวทางของความสมานฉันท์กับทุกฝ่ายให้รัฐธรรมนูญมีทิศทางออกมาเป็นที่ยอมรับเรายินดีเป็นตัวกลาง

เพราะตอนนี้เป็นห่วงการรวมกลุ่มต่างๆ ที่จะทำให้เห็นว่ารัฐธรรมนูญมีโอกาสน้อยมากที่จะผ่านประชามติ

จาก หนังสือพิมพ์มติชน