กิตติรัตน์แจงปปช.ปมจำนำข้าว เชื่อนายกฯไม่ละเลยปฏิบัติหน้าที่

กิตติรัตน์แจงปปช.ปมจำนำข้าว เชื่อนายกฯไม่ละเลยปฏิบัติหน้าที่

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 18 เม.ย. 57 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รักษารองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ได้เดินทางเข้ามาให้ปากคำในฐานะพยานของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในคดีตรวจสอบการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทั้งนี้ คาดว่า ป.ป.ช.จะสอบถามเรื่องตัวเลขความเสียหายทางการคลัง และสร้างภาระงบประมาณจากโครงการรับจำนำข้าว

ต่อมาเวลา 17.30 น. นายกิตติรัตน์ ได้กล่าวภายหลังออกมาจากชี้แจงต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.

ซึ่งใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมงครึ่ง ว่า ในวันนี้ตนได้นำเอกสารมาจำนวน 90 หน้า และได้ตอบข้อสักถามของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งได้สักถามกับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการรับจำนำข้าว และกรอบวินัยการเงินการคลัง และรายงานผลการดำเนินการรวมทั้งวงเงินต่างๆ ในการดำเนินการโครงการดังกล่าว ซึ่งเป็นข้อมูลที่ตนเชื่อว่าสามารถอธิบายได้ตามข้อเท็จจริง

ทั้งนี้มีการตรวจสอบเอกสารที่นำมาด้วย รวมทั้งการให้ถ้อยคำขอตนจะเป็นประโยชน์ในการพิจารณาต่อ ป.ป.ช. ต่อไป

ทั้งนี้ตนได้รายงานผลการดำเนินการตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม ปี 54 ซึ่งเรายังไม่ได้เริ่มโครงการเลย แต่ว่าข้อมูลของโครงการรับจำนำข้าวก็มีรายงานผลการขาดทุนต่างๆ ที่ค้างอยู่ ซึ่งเบื้องต้นการที่จะเข้าเกี่ยวกับยอดคงเหลือส่วนที่ จะเป็นภาระในการดำเนินโครงการดังกล่าวนั้น

ทั้งนี้ในมุมของการปิดบัญชีทรัพย์สิน ก็ต้องเข้าใจสมมุติฐานในเรื่องของมูลค่า สินค้าคงคลัง สินค้าสต๊อกต่างๆ
 
ซึ่งสมมุติบางอย่างก็เป็นของอธิบายทางด้านบัญชีทั้งหมด ซึ่งข้อมูลบางประการไม่ตรงกัน เช่น สต๊อกข้าวเปลือกมีการรายงานที่ไม่ตรงกัน เพราะข้าวเปลือกที่อยู่ในกระบวนการเกือบ 3 ล้านบาท ไม่ได้ถูกบันทึกไว้ ทั้งนี้ก็ทำให้เห็นได้ว่าการตั้งข้อสมมุติไม่เป็นกับข้อมูลความเป็นจริง

นายกิตติรัตน์ กล่าวอีกว่า ตนได้ชี้แจงต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ถึงใน ปี 55-56 ว่าเราไม่ได้จัดตั้งงบประมาณ
 
เพื่อให้ดูแลแต่โครงการรับจำนำข้าว ซึ่งในอดีตยังมีโครงการดูแลสินค้าเกษตรต่างๆ ที่ตกค้างอยู่ตั้งแต่รัฐบาลก่อนหน้านี้ ดังนั้นจึงชี้แจงว่างบประมาณไม่ได้มากมายเกินเลย และได้เปรียบเทียบกับโครงการการประกันราคาข้าวที่ได้ใช้มาก่อนด้วย

ในขณะที่โครงการรับประกันราคาข้าวไม่ได้ขาดทุน แต่เป็นการจ่ายส่วนต่างของราคาตลาดให้กับชาวนาทุกๆ คน ที่มาขึ้นทะเบียนได้

ทั้งนี้โครงรับจำนำข้าวได้เกิดขึ้น เพราะว่าพรรคเพื่อไทยได้หาเสียงทำประชาคมไว้ และได้ไปแถลงต่อสภาผู้แทนราษฎรไว้แล้ว ตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2554 และการดำเนินการก็เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีที่จะต้องดำเนินการ และการควบคุมวินัยการเงิน การคลังได้ทำด้วยความเข้มงวด มีการกำหนดวงเงินต่างๆ และมีการรายงานผลการดำเนินการต่างๆ ให้คณะรัฐมนตรีรับทราบต่อเนื่องมาโดยตลอด

“ผมมั่นใจว่าการดำเนินโครงการรับจำนำข้าว มีข้อมูลตามความเป็นจริง ไม่ใช้ว่านายกรัฐมนตรีจะละเว้นหรือละเลยการปฏิบัติหน้าที่แต่อย่างใด มีการคำนวนตัวเลขแล้ว ซึ่งกระทรวงการคลังมีความพร้อม ในการชี้แจงตัวเลขดังกล่าวแน่นอน” นายกิตติรัตน์ กล่าว


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์