“เด็จพี่ ” ประณามคนปล่อยข่าว “ ผบ.ทบ.”

เมื่อวันที่4 เม.ย. ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่กลุ่มนายสุเทพ  เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.

พยายามออกมาเสี้ยมทหาร โดยเฉพาะผบ.เหล่าทัพ  และรัฐบาลให้เกิดความแตกแยกกัน ว่า รัฐบาลมีหน้าที่รักษาการตามกฎหมาย ส่วนกองทัพก็เป็นกองทัพของประชาชนแต่สิ่งที่นายสุเทพ กับพวกและจากการดูในโซเซียลเน็ทเวิร์คมีการปล่อยข่าวในลักษณะที่ยุยงให้มีการแตกแยก ว่า ผบ.ทบ. เหมือนเป็นพนักงานลูกจ้างชินวัตร ตนมองว่า เป็นการปล่อยข่าวให้กระทบพ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และรัฐบาลมอง ว่าเรื่องนี้ควรประณามคนปล่อยข่าว เพราะเป็นการเสี้ยมให้คนเลาะกัน ทั้งนี้เชื่อว่า เป็นการปล่อยข่าวของกลุ่มอำนาจเดิม ๆ ที่อยู่เบื้องหลังการรัฐประหารปี 49 ปล่อยข่าว เพื่อให้ทหารออกมาทำการรัฐประหารโดยอ้างการชี้มูลคดีต่าง ๆ ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ จากองค์กรอิสระ  

“  ผมเชื่อว่าถ้ามีการยึดอำนาจ เกิดการปฏิวัติรัฐประหารอีกรอบ โดยการล้มรัฐบาลประชาธิปไตยและฉีกรัฐธรรมนูญ งานนี้ไอ่โม่งที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้จะต้องรับผิดชอบรวมถึงนายสุเทพ และพวก องค์กรอิสระบางองค์กร รวมถึงพรรคประชาธิปัตย์ที่บอยคอยการเลือกตั้งต้องรับผิดชอบ เพราะมีลักษณะเล่นการเมืองคู่ขนานกับนายสุเทพ จึงอยากฟ้องประชาชนว่า  มีขบวนการเหล่านี้และเริ่มแจ่มชัดขึ้นในการดึงทหาร หรือยั่วยุทหารให้ออกมาทำการยึดอำนาจ  ” นายพร้อมพงศ์ กล่าว

นายพร้อมพงศ์  ยังกล่าวถึงการชุมนุมของนปช. และกปปส. ในวันที่ 5 เม.ย. นี้ว่า
 
เป็นห่วงการชุมนุมของทั้งสองฝ่ายเพราะ กลัวจะมีมือที่สามสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้น ซึ่งคิดว่าการสร้างสถานการณ์น่าจะมาจากคนกลุ่มเดิม ๆ ที่สูญเสียอำนาจ และน่าจะมีส่วนในการยึดอำนาจเมื่อ 19 ก.ย. 49เพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดการเผชิญหน้า แล้วให้ทหารออกมายึดอำนาจเป็นแผนวงจรอุบาทของการเมืองไทยในการทำลายประชาธิปไตย จึงขอฟ้องประชาชนว่า ถ้ามีสร้างสถานการณ์มีขบวนการเหล่านี้อยู่เบื้องหลัง คนไทยที่รักประชาธิปไตย รักในสิทธิเสรีภาพ จะยอมให้คนเหล่านี้ปล้นอำนาจประชาธิปไตยหรือไม่และถ้ามีการยึดอำนาจตนเชื่อว่า นานาชาติจะบอตคอยเรื่องนี้ จึงขอประณามกลุ่มที่อยู่ตรงข้ามรัฐบาลและทุกกลุ่มที่พยายามใช้ทุกวิถีทางเพื่อล้มรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ตนจะเปิดเผยต่อไปว่าขบวนการปล้นประชาธิปไตยเหล่านี้มีใครบ้าง   ซึ่งจะเป็นการรัฐประหารรอบสองหลังปี 49 เป็นการสมคบคิดกันเพื่อปล้นประชาธิปไตย.