นายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการและรองโฆษกป.ป.ช.แถลงผลการประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.ว่า กรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมขอโอกาสขยายระยะเวลาทำคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา กรณีไม่ระงับยับยั้งจนก่อให้เกิดความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวจำนวน 30 วัน ที่ประชุมเห็นว่า ตามระเบียบป.ป.ช.ว่าด้วยการไต่สวนข้อเท็จจริง เปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาสามารถชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเพิ่มเติมได้จนกว่าจะมีการวินิจฉัยข้อเท็จจริงในกรณีที่มีเหตุผลอันสมควร
ป.ป.ช.มีมติให้ “ปู” สอบพยานเพิ่ม 3 ราย
นายประสาท กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ขออ้างพยานบุคคลเพื่อให้ป.ป.ช.ไต่สวน จำนวน 11รายที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.มีมติให้สอบเพิ่มเติมจำนวน 3 ราย เนื่องจากเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับประเด็นที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกกล่าวหาประกอบด้วย นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์นายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์
ทั้ง 2 คนจะสอบในประเด็นรับจำนำข้าว และการระบายข้าว ส่วนนายกิตติรัตน์ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง จะสอบในประเด็นความเสียหายด้านการเงินการคลังของประเทศ ส่วนคนอื่นๆ ที่เหลือเห็นว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำของผู้ถูกกล่าวหาและไม่ใช่ประเด็นที่ป.ป.ช.กล่าวหา
นายประสาท กล่าวว่าหลังจากนี้จะทำหนังสือแจ้งไปยังน.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้ทราบเพื่อให้นำพยานบุคคลทั้ง 3ปากเข้ามาให้ปากคำกับป.ป.ช.ต่อไป ขณะเดียวกันจะประสานกับทางทนายความอีกทางหนึ่ง เพื่อให้รวดเร็วขึ้น เชื่อว่า จะรวดเร็ว เหมาะสมและสะดวก เพราะบุคคลทั้งสามเป็นบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่โดยตรงกับด้านนี้และเกี่ยวข้องกับที่ป.ป.ช.กำลังไต่สวนอยู่
อีกทั้งปัจจุบันทั้งสามคนยังเป็นรักษาการรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้อยู่นอกจากนี้ กรณีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำหนังสือถึงป.ป.ช.เพื่อขอให้ยุติการไต่สวนข้อเท็จจริงที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.มีมติ ว่าจะนำเรื่องดังกล่าวไปวินิจฉัยในคราวเดียวกับหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงจำนวน 151แผ่นที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ยื่นชี้แจงมาเมื่อวันที่31 มี.ค.
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเริ่มดำเนินการไต่สวนพยานบุคคลทั้ง 3 รายได้เมื่อไร นายประสาท กล่าวว่าอยู่ที่ความร่วมมือของนายกฯ คิดว่า นายกฯต้องการความรวดเร็วและสะดวกเพื่อจะพิสูจน์ตัวนายกฯ อีกทั้งพยานบุคคลทั้ง 3 รายปัจจุบันยังเป็นรักษาการรันมนตรีอยู่ในขณะนี้ และนายกฯให้ความร่วมมือดีจึงน่าจะรวดเร็ว