“ณัฐวุฒิ” ยัน เสื้อแดงชุมนุมใหญ่ 5 เม.ย. ไม่มีปะทะ ขอกองทัพสบายใจ ลั่น พร้อมเข้ากทม.หากมีรัฐประหาร-นายกฯคนกลาง เตรียมจัดนิทรรศกาลนายกฯเถื่อนพรุ่งนี้
เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน จังหวัดนครปฐม นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ในฐานะเลขาธิการ นปช.
กล่าวถึงการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มนปช. ในวันที่ 5 เม.ย. ว่า ฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการดูแลความสงบไม่ต้องกังวลต่อการชุมนุมที่จะเกิดขึ้น โดยหลักการที่เรายึดถือคือจะไม่ให้มีการเผชิญหน้า และกระทบกระทั่งกันระหว่างมวลชนทั้งสองฝ่าย เราไม่ได้ต้องการความรุนแรง สิ่งที่ต้องการ คือ แสดงพลังให้กลุ่มกปปส.และผู้ที่อยู่เบื้องหลังรู้ว่า มีคนจำนวนมากไม่ยอมรับแนวทางเหล่านั้น และพร้อมที่จะต่อสู้ ปกป้องประชาธิปไตยร่วมกัน อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่า ในนามของนปช. เราไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรงใด เชื่อว่าเราสามารถจัดการประชาชนที่มาร่วมชุมนุมได้ เพราะเรารู้ว่าถ้าไปกระทบกระทั่งเป็นสิ่งที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส.ต้องการ และเปิดช่องให้อำนาจนอกระบบเข้ามาแทรกแทรงได้
ส่วนรูปแบบการชุมนุมนั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เป็นการรวมพลังโดยใช้เครือข่ายแกนนำระดับจังหวัด ที่เราได้มีการประชุมเตรียมการไว้
ขับเคลื่อนมวลชนเข้ามายังจุดนัดหมาย หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงฉับพลัน ไม่ว่าจะเป็นรัฐประหาร หรือการตั้งนายกฯ คนกลางขึ้นมา เราจะประกาศต่อสู้ทั้งในกทม. และต่างจังหวัด ขับเคลื่อนควบคู่กันไป โดยในกทม.พวกตน จะเป็นแกนนำเคลื่อนไหวมวลชน และทุกจังหวัดสามารถเคลื่อนไหวโดยอิสระทันที ภายใต้แนวทางหลักของนปช.ที่วางไว้ คือ สันติวิธี โดยจะแถลงความชัดเจนอีกครั้งในวันที่ 3 เม.ย. ทั้งนี้ สำหรับสิ่งที่กองทัพแสดงความห่วงใยนั้นเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ ซึ่งตนขอบอกไปยังผบ.เหล่าทัพว่า ไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้กฎอัยการศึก ซึ่งเมื่อพิจารณาทางออกร่วมกันนั้นเพียงให้กกต.กำหนดวันเลือกตั้งให้ชัดเจน และไม่มีการขัดขวางการเลือกตั้ง เท่านี้บ้านเมืองก็เดินหน้าได้ โดยให้กองทัพยืนนิ่งๆ เป็นกลางให้ประชาชนสบายใจ
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ตั้งแต่ที่ตนเปิดเผยรายชื่อนายกฯคนกลางพบว่า ขณะนี้กระบวนการเคลื่อนไหวทาบทามบุคคลเพื่อเป็นนายกฯ คนกลางยังคงอยู่
ดังนั้นตนจะนำเสนอข้อมูลต่อสังคมให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ในวันที่ 2 เม.ย.เวลา 13.00 น.ที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล ลาดพร้าว จะมีการเปิดนิทรรศการนายกฯ เถื่อน จะมีการหยิบรายชื่อบุคคลที่เป็นตัวเต็ง มาแสดงในนิทรรศการ พร้อมย้อนรอยประวัติศาสตร์ว่า นายกฯนอกกฎหมายของประเทศไทยไม่มีใครมีจุดจบทางการเมืองที่สวยงาม ล้วนแล้วแต่เป็นตราบาปทางสังคม.