นักวิชาการชี้การเลือกตั้งใหม่ไม่ใช่อนาคตของประเทศไทย

17 เมษายน 2550 16:21 น.
นักวิชาการไม่เห็นด้วยต่ออายุ คตส. เชื่อรัฐบาลใหม่มาคงไม่เอาด้วย เพราะเป็นนักการเมืองหน้าเก่า เปรียบหยิกเล็บเจ็บเนื้อ แนะให้เปลี่ยนพฤติกรรมนักการเมืองรู้จักหน้าที่ตัวเอง ระบุการเลือกตั้งครั้งใหม่ไม่ใช่อนาคตของประเทศ

นายประหยัด หงษ์ทองคำ นักวิชาการ ให้ความเห็นกรณีที่คณะกรรมการตรวจสอบการประทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.) ระบุการตรวจสอบคดีต่าง ๆ อาจเสร็จไม่ทันตามวาระการทำงาน ว่า ไม่เห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าว เพราะหากมีการต่ออายุก็ต้องถูกต่อต้านและถ้าไม่ต่ออายุก็ต้องถูกมองว่าทำงานล้มเหลว

และที่สำคัญข้าราชการที่เคยทำงานร่วมกับรัฐบาลเก่ามา ก็ไม่แน่ใจว่าอำนาจเก่าจะกลับมาเมื่อใด อาจจะเร็ว ๆ นี้ก็ได้ อะไรที่พอจะนิ่งเฉยได้ก็นิ่งเฉย อะไรที่ต้องทำก็ทำเท่าที่จำเป็น ดังนั้น การต่ออายุ คตส.ไม่มีประโยชน์อะไร เพราะหากมีการเลือกตั้งในปลายปีนี้ รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งก็คงไม่เอาด้วย เป็นเรื่องหยิกเล็บเจ็บเนื้อ เพราะหลังเลือกตั้งคนที่จะกลับมามีอำนาจเป็นรัฐบาลใหม่ก็คือนักการเมืองหน้าเก่า ๆ นายประหยัด กล่าว

เมื่อถามว่า แสดงว่าการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นไม่ใช่อนาคตของประเทศไทย นายประหยัด กล่าวว่า ไม่ใช่ อาจเป็นสาเหตุของการปฏิวัติครั้งใหม่ด้วยซ้ำ เพราะยังไม่ได้มีการเปลี่ยนทัศนคติของนักการเมืองและผู้เลือกตั้ง ที่ทั้งสองส่วนยังเป็นคนเก่า ๆ ยังมีความนึกคิดแบบเก่า ๆ คือเลือกคนที่เอาเงินไปให้

เกิดความเสียหาย แล้วจะไม่เป็นเหตุผลของการปฏิวัติครั้งใหม่ได้อย่างไร ดังนั้น การแก้ปัญหาดังกล่าวจะต้องแก้ไขทั้งที่ประชาชนและนักการเมือง โดยจะต้องให้ประชาชนให้บทเรียนกับนักการเมืองให้ได้ ว่าจะต้องเอาความดีมาแลกกับคะแนนเสียง เพราะถ้าเอาเงินมาแลกกับคะแนนเสียงประชาชนก็จะให้บทเรียนอันเจ็บแสบแก่นักการเมือง ตราบใดที่ยังไม่สามารถทำให้ประชาชนมีพฤติกรรมเช่นนี้ได้ การเมืองของไทยก็จะวนเวียนอยู่ในวัฏจักรของความชั่วร้ายแบบนี้ ไม่มีอะไรดีขึ้น

เพราะหากจะเปรียบกับประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว ประเทศไทยเล็กกว่าสหรัฐอเมริกา 40-50 เท่า พลเมืองก็น้อยกว่า 4-5 เท่า ขณะที่สหรัฐอเมริกามี ส.ส.เพียง 435 คน สมาชิกวุฒิสภา 100 คน ส่วนประเทศไทยมี ส.ส. 400 คน